บทที่ 37 ปะทะเสือร้าย
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
เสียงกรีดร้องของโอไรออนดังสะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาทของทุกคนที่อยู่ในถ้ำ มันไม่ใช่เสียงร้องจากความเจ็บปวดทางกาย แต่เป็นเสียงของจิตใจที่กำลังถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ เขาล้มลงไปชักกระตุกอยู่บนพื้นถ้ำที่เย็นเยียบ ดวงตาของเขาเหลือกขึ้นจนเห็นแต่ตาขาว ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรงราวกับถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต
ความมืดภายในถ้ำที่เคยเป็นที่หลบภัย บัดนี้ได้กลายเป็นคุกที่มองไม่เห็น มันกดทับลงมา... อากาศดูเหมือนจะหนาและหนักขึ้นจนหายใจแทบไม่ออก และความหนาวเย็นที่ไลรารู้สึกได้ก่อนหน้านี้... บัดนี้มันได้แผ่ซ่านไปทั่วจนทุกคนสัมผัสได้ มันคือความเย็นเยียบที่กัดกินเข้าไปในกระดูก... เป็นความเย็นของสุสาน
"โอไรออน!" ไลรากรีดร้อง เธอคลานเข้าไปหาพี่ชายฝาแฝดของเธอทันที แต่ทันทีที่เธอสัมผัสตัวเขา เธอก็สะดุ้งสุดตัวและชักมือกลับ!
"ตัวเขา... เย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง!"
สัญชาตญาณนักวิทยาศาสตร์ของลีน่าเข้าควบคุมทันที เธอผลักความกลัวของตัวเองทิ้งไป "เร็กซ์! ขอชุดปฐมพยาบาล! เร็วเข้า!" เธอกระโจนเข้าไปคุกเข่าข้างๆ โอไรออน พยายามจะจับตัวเขาให้นิ่ง แต่อาการชักของเขารุนแรงเกินไป "อาการของเขาเหมือนคนกำลังช็อกเพราะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงเฉียบพลัน! แต่... มันเป็นไปไม่ได้! อากาศในนี้ไม่ได้หนาวขนาดนั้น!"
ในขณะที่ทีมจากดุษฎีนครกำลังวุ่นวายอยู่กับการใช้ตรรกะทางการแพทย์... ครามและเหล่าพรานกลับทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
"ถอยไป!"
ครามคำรามเสียงดัง เขาไม่ได้ผลักลีน่าอย่างรุนแรง แต่เป็นการใช้ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาเข้ามาขวางกั้นอย่างนุ่มนวลแต่เด็ดขาด เขาทรุดตัวลงคุกเข่าข้างๆ โอไรออน มองอาการของเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่ไม่ได้มีความตื่นตระหนก... แต่มีความเข้าใจ... เหมือนหมอที่เห็นอาการป่วยที่คุ้นเคยมาทั้งชีวิต
เขาหันไปตะโกนสั่งคนของเขาเป็นภาษาไทย "เอาเครื่องรางสุริยันมา! เร็ว!"
ลีน่าที่กำลังจะโต้แย้ง ถูกเร็กซ์เข้ามาขวางไว้ "ท่านผู้บัญชาการ!" เขากระซิบเสียงเครียด "เราไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร!"
สถานการณ์ภายในถ้ำเล็กๆ บัดนี้ได้กลายเป็นความโกลาหลสองชั้น... การต่อสู้กับวิญญาณที่มองไม่เห็น และการเผชิญหน้าระหว่างสองอารยธรรมที่พร้อมจะปะทะกันได้ทุกเมื่อ
พรานคนหนึ่งรีบยื่นเครื่องรางที่ทำจากหินสีเหลืองแกะสลักเป็นรูปดวงอาทิตย์ให้คราม เขารับมันมาและเริ่มสวดบทสวดโบราณด้วยเสียงที่ทุ้มและกังวาน... ในขณะเดียวกัน ลีน่าก็หยิบหลอดฉีดยาอัตโนมัติที่บรรจุสารระงับประสาทออกมาจากชุดปฐมพยาบาล
"หลีกทาง! ฉันต้องฉีดยาให้เขา!" ลีน่าตะโกน
"ยาของท่านใช้กับวิญญาณไม่ได้!" ลินดาตะโกนตอบกลับมา เธอทำหน้าที่เป็นล่ามให้พ่อของเธอ "ท่านพ่อบอกว่านี่คือการ 'ชิงร่าง'! เราต้องขับไล่มันออกไป!"
ครามไม่สนใจเสียงคัดค้าน เขาพยายามจะนำเครื่องรางเข้าไปจ่อที่หน้าผากของโอไรออน แต่ลีน่าก็พยายามจะแทรกแขนเข้าไปเพื่อฉีดยา...
และในวินาทีที่ความขัดแย้งกำลังจะถึงจุดแตกหัก...
"รอ... รอเดี๋ยวก่อน!" ไลราตะโกนขึ้น เสียงของเธอสั่นเครือแต่ก็ดังพอที่จะทำให้ทุกคนหยุดชะงัก "พิธีกรรมของเขา... มันช่วยได้... ฉันรู้สึกได้!"
ทุกคนหันไปมองเธอเป็นตาเดียว "ความหนาวเย็น... ตอนที่เขาสวด... ความหนาวเย็นรอบตัวโอไรออนมันลดลง... มันเหมือน... เสียงสวดของเขากำลังสร้างกำแพงที่อบอุ่นขึ้นมา!"
คำพูดของไลราคือสิ่งที่ตรรกะทางวิทยาศาสตร์ไม่มีวันจะอธิบายได้ มันคือข้อมูลที่มาจากประสาทสัมผัสที่หก... และในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้... มันคือข้อมูลเดียวที่พวกเขาต้องเชื่อ
ลีน่าค่อยๆ ลดหลอดฉีดยาในมือลง... แต่ยังไม่เก็บมัน เร็กซ์เองก็ลดปืนลงเช่นกัน แต่ยังคงจับไว้แน่น ครามเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับพิธีกรรมของเขาต่อ
บัดนี้... ภายในถ้ำที่มืดมิด... การรักษารูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นก็ได้เริ่มต้นขึ้น... วิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์... ตรรกะและศรัทธา... ถูกบังคับให้ต้องทำงานร่วมกันอย่างน่าหวาดเสียว... เพื่อต่อสู้กับศัตรูที่อยู่เหนือความเข้าใจของพวกเขาทั้งสองฝ่าย
พันธมิตรจำเป็นได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความโกลาหลและความสิ้นหวัง ลีน่าและเร็กซ์ถอยกลับมาตั้งหลัก สร้างวงล้อมป้องกันรอบตัวไลราที่กำลังทำหน้าที่เป็นสมอเรือทางจิตให้กับพี่ชายของเธอ ในขณะที่ครามและเหล่านักรบของเขาได้เริ่มต้น "พิธีกรรม" ของพวกเขาอย่างเต็มรูปแบบ
พวกเขาไม่ได้แค่สวดมนต์... แต่กำลังสร้างป้อมปราการแห่งศรัทธาขึ้นมา
ครามและพรานอีกสองคนคุกเข่าลงเป็นรูปสามเหลี่ยมล้อมรอบโอไรออนที่กำลังชักกระตุกอยู่ใจกลาง พวกเขาไม่ได้มองหน้ากัน แต่สายตาของแต่ละคนกลับจับจ้องไปยังเครื่องรางสุริยันที่ครามวางไว้บนหน้าอกของโอไรออน... และแล้ว "บทสวด" ก็เริ่มต้นขึ้น
มันไม่ใช่การสวดอ้อนวอนที่แผ่วเบา แต่เป็นเสียงทุ้มต่ำที่ก้องกังวานและทรงพลังจนผนังถ้ำสั่นสะเทือนเบาๆ พวกเขาเปล่งเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง บทสวดโบราณที่สืบทอดกันมานับร้อยปีดังขึ้นท่ามกลางความมืด...
"...อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ..."
แต่ละพยางค์ที่เปล่งออกมาไม่ได้เป็นแค่เสียง แต่คือการสร้าง "กำแพงเสียง" แห่งศรัทธาที่มองไม่เห็น มันคือคลื่นความถี่ที่เกิดจากเจตจำนงอันแน่วแน่ ค่อยๆ ผลักดันความหนาวเย็นที่น่าสะพรึงกลัวให้ถอยห่างออกไปทีละน้อย ไลราซึ่งไวต่อแรงสั่นสะเทือนที่สุด สัมผัสได้ถึง "ความอบอุ่น" ที่แผ่ออกมาจากวงล้อมนั้น มันคือเกราะป้องกันที่วิทยาศาสตร์ของเธอไม่มีวันสร้างขึ้นมาได้
แต่ลีน่ารู้ดี... นี่เป็นเพียงการตั้งรับ มันไม่ใช่ทางออก
"พวกเขาซื้อเวลาให้เราได้ไม่นาน" ลีน่าพูดกับทีมของเธอเสียงเครียด "พลังจิตของโอไรออนกำลังถูกโจมตีโดยตรง เราต้องหาทางตอบโต้ ไม่ใช่แค่ป้องกัน"
ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเธอ... มันคือความหวังที่ริบหรี่และบ้าบิ่นที่สุด
"เครื่องปล่อยคลื่นโซนิก!" เธออุทานออกมาเบาๆ "เราใช้มันเพื่อหักล้างกำแพงเสียงของพวกสาวกได้... บางทีมันอาจจะใช้กับ 'เสียงกระซิบ' นี่ได้เหมือนกัน!"
"แต่มันอยู่ที่รถแรคคูน!" เร็กซ์สวนกลับมาทันที "ข้างนอกนั่นมีเสือตัวนั้นเฝ้าอยู่! การออกไปตอนนี้คือการฆ่าตัวตายชัดๆ!"
"เราจะไม่ออกไป" ลีน่าพูดอย่างเด็ดขาด "เควิน!" เธอเปิดช่องสื่อสารส่วนตัว "คุณยังเชื่อมต่อกับรถแรคคูนได้ไหม! สั่งให้มันปล่อยโดรนนำเครื่องปล่อยคลื่นโซนิกมาที่นี่!"
เกิดความเงียบไปชั่วขณะ มีเพียงเสียงซ่าของสัญญาณรบกวนตอบกลับมา...
[เควิน: ไม่ได้ผลครับ ดร. โชติรส!] เสียงของเควินดังแทรกเข้ามาอย่างยากลำบาก [พลังงานของ 'เสียงกระซิบ' มันรบกวนสัญญาณควอนตัมของผมจนเกือบจะเป็นอัมพาต! ผมมองเห็นสถานะของรถ... แต่ผม 'สั่งการ' อะไรมันไม่ได้เลย สัญญาณมันอ่อนเกินไป!]
ความหวังสุดท้ายดูเหมือนจะพังทลายลง... แต่แล้วความคิดของนักวิทยาศาสตร์ผู้ไม่เคยยอมแพ้ของลีน่าก็จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
"ถ้าสัญญาณอ่อนไป... เราก็ต้องสร้าง 'เสาอากาศ' ขึ้นมา!" เธอประกาศก้อง "เร็กซ์! เอลารา! ฉันต้องการให้พวกคุณหาเศษโลหะทุกชนิดที่พอจะนำไฟฟ้าได้จากซากปรักหักพังในถ้ำนี้! เราจะสร้างเครื่องขยายสัญญาณเฉพาะกิจขึ้นมา... เราไม่ต้องการการเชื่อมต่อที่เสถียร... เราต้องการกำลังส่งที่แรงพอจะยิง 'คำสั่งเดียว' ไปถึงรถให้ได้!"
"เราจะสู้กับเสียง... ด้วยเสียงที่ดังกว่า!"
คำประกาศของลีน่าคือการจุดชนวนสงครามรูปแบบใหม่ มันคือการเดิมพันที่บ้าคลั่งที่สุด ที่จะใช้ตรรกะและศรัทธามาบรรเลงเป็นเพลงเดียวกัน เธอชูเสาอากาศเศษเหล็กขึ้นราวกับคทาของวาทยกร เตรียมพร้อมที่จะควบคุมซิมโฟนีแห่งความสิ้นหวังนี้ด้วยตัวเอง
"พร้อมนะ!" ลีน่าตะโกน "เควิน! ส่งคำสั่ง!"
[เควิน: รับทราบ... กำลังส่งสัญญาณ...]
วูมมมมมมมมมมมมม!
คลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นได้พุ่งออกจากเสาอากาศประดิษฐ์ มันคือ "คำสั่ง" เพียงหนึ่งเดียวที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยคลื่นความถี่ 15.7 เฮิรตซ์ของบทสวด... มันคือวิทยาศาสตร์ที่กำลังขี่หลังศรัทธา...
ตึ้ง!
ณ รถแรคคูนที่จอดนิ่งอยู่นอกถ้ำ... ระบบโดรนอัตโนมัติที่เคยเงียบสนิทก็สว่างวาบขึ้น! มันได้รับคำสั่งแล้ว! ช่องปล่อยโดรนขนาดเล็กเปิดออก และ "เครื่องปล่อยคลื่นโซนิก" ก็ถูกดีดออกมาจากตัวรถ มันไม่ได้บิน... แต่ร่วงหล่นลงบนพื้นดินที่ชื้นแฉะ...
ฟู่...
เครื่องปล่อยคลื่นโซนิกเปิดใช้งานตัวเองทันทีตามคำสั่งสุดท้ายที่ได้รับ...
และในวินาทีนั้นเอง... "สังคีตแห่งสองโลก" ก็ได้เริ่มต้นบรรเลงขึ้น!
มันคือเสียงสวดของเหล่าพราน... ที่ถูกขยายพลังขึ้นเป็นพันเท่าด้วยวิทยาศาสตร์... บทสวด "...นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ..." ที่เคยทุ้มต่ำและกังวาน บัดนี้ได้ถูกคลื่นโซนิกขยายจนกลายเป็นโดมแห่งพลังงานเสียงที่มองไม่เห็น มันครอบคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ... สั่นสะเทือนทุกอณูในอากาศ... และมันก็ได้ผล!
เหล่าวิญญาณที่เคยมองไม่เห็น บัดนี้กลับปรากฏเป็นร่างโฮโลแกรมที่บิดเบี้ยวขึ้นกลางอากาศ พวกมันกรีดร้องอย่างเงียบงัน... ไม่ใช่ด้วยความโกรธแค้น... แต่ด้วยความเจ็บปวดและความสับสน! คลื่นเสียงแห่งศรัทธาที่ถูกขยายพลังกำลัง "ชำระล้าง" พลังงานด้านลบที่กัดกินพวกมัน!
แต่ในขณะที่ความหวังกำลังจะผลิบาน...
"โหกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!"
เสียงคำรามที่ดังยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ดังขึ้นจากนอกถ้ำ! เสืออาถรรพ์ที่กำลังสับสนจากเสียงสวดที่เปลี่ยนไป บัดนี้มันกำลังคลุ้มคลั่งอย่างถึงขีดสุด! คลื่นเสียงที่ทรงพลังและบริสุทธิ์นี้คือสิ่งที่มันรังเกียจที่สุด! มันคือ "ความเป็นระเบียบ" ที่ท้าทายความโกลาหลในตัวตนของมัน!
ตูมมมมมมมมมมมม!
มันใช้ร่างมหึมาของมันกระแทกเข้ากับผนังถ้ำอย่างบ้าคลั่ง! ! ถ้ำทั้งถ้ำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง! ฝุ่นผงร่วงหล่นลงมาจากเพดานราวกับหิมะ!
มันหันไปทางอื่นและพ่นลำแสงความร้อนออกมา! ฟู่มมมมมมมมม! ลำแสงสีแดงพุ่งเฉียดปากถ้ำออกไปจนต้นไม้ข้างนอกลุกเป็นไฟ! ความร้อนแผ่เข้ามาในถ้ำจนทุกคนรู้สึกได้!
คลื่นเสียงที่ดิบเถื่อนและเต็มไปด้วยสัญชาตญาณนักล่าของมัน พุ่งเข้าปะทะกับ "สังคีตแห่งสองโลก" ที่พวกเขาบรรจงสร้างขึ้นอย่างจัง!
ความพยายามที่จะปลอบประโลมได้กลายเป็นการยั่วยุที่เลวร้ายที่สุด!
เหล่าวิญญาณที่กำลังจะสงบลง บัดนี้กลับบิดเบี้ยวด้วยความเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม! เสียงคำรามของเสือร้ายได้ปลุก "ความแค้น" ของพวกเขาให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง!
"ไม่!!!" โอไรออนกรีดร้อง "มัน... มันกำลังทำให้พวกวิญญาณ... แข็งแกร่งขึ้น!"
ภาพโฮโลแกรมของวิญญาณกลุ่มนั้นเริ่มควบแน่นและพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง!
"ไม่ได้ผล!" ลีน่าคำราม "ความแค้นของพวกเขามัน... บริสุทธิ์เกินไป!"
วิญญาณดวงหนึ่งพุ่งทะลุผ่านกำแพงเสียงเข้ามา... และทะลุผ่านตัวของเร็กซ์ไป!
"อึ่ก!"
เร็กซ์ทรุดลงคุกเข่าทันที! "มันกำลังดูดพลังชีวิตของเรา!"
สถานการณ์ได้เข้าสู่ขั้นเลวร้ายที่สุดแล้ว... พวกเขาต้านไม่ไหว... และโอไรออนก็กำลังจะถูกคลื่นสมองเขียนทับ!
ความสิ้นหวังเข้าครอบงำจิตใจของลีน่าอย่างสมบูรณ์แบบ วิทยาศาสตร์ใช้ไม่ได้ผล... ศรัทธาก็ใช้ไม่ได้ผล... กำลังก็ไร้ความหมาย... พวกเขาจะทำอย่างไรดี? แผนการที่ดูเหมือนจะชาญฉลาดที่สุดกลับกลายเป็นการจุดไฟเผาบ้านตัวเอง!
แล้วเธอก็นึกขึ้นได้... มันคือ "บาดแผล"... และบาดแผล... ต้องการ "ผู้เยียวยา"
ลีน่าตัดสินใจเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย เธอเปิดช่องทางการสื่อสารฉุกเฉิน
"ศิลา!" เธอตะโกนสุดเสียง "ได้ยินฉันไหม! ศิลา!"
[ศิลา: ได้ยินครับท่านผู้บัญชาการ! เกิดอะไรขึ้น!]
"แผนของเราล้มเหลว! โอไรออนกำลังจะ...!" ลีน่ากัดฟันแน่น "ศิลา! 'เสียงกระซิบ' นี่... มันคือความตาย คือความเน่าเปื่อย! ในฐานะนักพฤกษศาสตร์... บอกฉันที! ธรรมชาติ... ธรรมชาติรับมือกับเรื่องแบบนี้ยังไง! เราจะใช้อะไรสู้กับความตาย!"
มันคือการร้องขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้าย... ไม่ใช่การร้องขออาวุธ... แต่คือการร้องขอ "ปัญญา" จากโลกที่เธอไม่เคยเข้าใจ
[ศิลา: ท่านผู้บัญชาการ! ท่านจะสู้กับความตายด้วยอะไร!]
คำถามของศิลาที่ดังผ่านระบบสื่อสารเข้ามานั้น ไม่ใช่การตั้งคำถาม... แต่มันคือการจุดประกาย!
[ศิลา: ธรรมชาติ... ธรรมชาติไม่เคย 'สู้' กับความตายครับ!] เสียงของศิลาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นของการค้นพบ [แต่... ธรรมชาติ 'สร้างทับ' มัน! ใช้ชีวิตใหม่... กลืนกินความตายให้กลายเป็นปุ๋ย!]
คำตอบนั้นคือสิ่งที่ลีน่าต้องการ! มันคือตรรกะที่อยู่นอกกรอบ คือวิทยาศาสตร์ที่บ้าคลั่งและงดงามที่สุด!
"นั่นแหละคือคำตอบ!" เธอตะโกนบอกทุกคนในถ้ำที่กำลังจะสิ้นหวัง "เราพยายามจะ 'ไล่ผี'... แต่นั่นมันผิด! เราจะสู้กับความตายด้วยความตายไม่ได้! เราต้องสู้กับมันด้วย 'ชีวิต' ที่มากกว่า!"
แผนการที่บ้าบิ่นที่สุดได้ก่อตัวขึ้นในหัวของเธอ มันคือการเดิมพันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามี
"ศิลา!" ลีน่าตะโกนสั่งการ "เปิด 'คลังเมล็ดพันธุ์' ฉุกเฉิน! เอาเมล็ดพันธุ์ที่ทนทานและโตเร็วที่สุดออกมาให้หมด! เราจะเปลี่ยนสุสานนี่ให้กลายเป็นป่า!"
"แต่เราจะปลูกมันได้ยังไง!" เอลารากรีดร้อง
"เร็กซ์!" ลีน่าหันไปทางทหารผู้เงียบขรึมที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้ "ยิงคุ้มกัน!"
ในขณะที่เร็กซ์เตรียมจะยิง... ลีน่าก็หันไปทางโอไรออน
"โอไรออน! ผมต้องการให้คุณเปลี่ยนคลื่นเสียง!" เธอตะโกนใส่เขา "ไม่ใช่คลื่นแห่งความสงบ! แต่เป็นคลื่นความถี่ที่จะ 'กระตุ้น' การแบ่งเซลล์! เสียงคำรามของผืนดิน! เสียงของภูเขาไฟระเบิด! เสียงแห่งการกำเนิด!"
โอไรออนที่กำลังนอนขดตัวอยู่ กัดฟันแน่นจนเลือดซิบ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะกรองเสียงกรีดร้องแห่งความแค้นออกไป และค้นหา "เสียง" ที่ลีน่าต้องการ... เสียงฮัมความถี่ต่ำ... เสียงแห่งการเติบโตที่รุนแรง!
"คราม!" ลีน่าหันไปหาหัวหน้าพราน "บทสวดของท่านทรงพลัง... แต่เราต้องการบทสวดแห่ง 'การสร้าง' ไม่ใช่ 'การป้องกัน'!"
ครามมองหน้าเธอ... แล้วเขาก็เข้าใจ เขากับลินดาและเหล่านักรบที่เหลือเปลี่ยนท่วงทำนองการสวดในทันที มันไม่ใช่บทสวดที่ขับไล่... แต่คือบทเพลงโบราณที่ใช้ในพิธีเพาะปลูก... คือการเชื้อเชิญพลังแห่งผืนดิน!
"ไป!" ลีน่าตะโกนบอกศิลาและลินดา
ศิลาและลินดารับกระเป๋าเมล็ดพันธุ์จากเร็กซ์และโปรยมันลงบนพื้นถ้ำที่เย็นเฉียบอย่างรวดเร็ว!
"โอไรออน! ส่งคลื่นเสียง!"
เครื่องปล่อยคลื่นโซนิกส่งเสียงคำราม... ปลดปล่อยคลื่นความถี่แห่งการเติบโตออกไป! ผสานเข้ากับเสียงสวดแห่งการสร้างสรรค์!
และปาฏิหาริย์ที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้บังเกิดขึ้น...
พื้นดินที่เคยแห้งแล้งของนครเงียบ... ปริแตกออก!
ครืนนนนนนน!
รากไม้ขนาดมหึมาที่เรืองแสงสีเขียวอ่อนพวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน! เถาวัลย์ที่เต็มไปด้วยหนามชีวกลงอกเงยขึ้นมาด้วยความเร็วสูง! พวกมันไม่ได้เติบโตอย่างสงบ... แต่มัน "ระเบิด" ออกมาจากพื้นดิน! ฉีกกระชากซากคอนกรีตและโอบรัดร่างโฮโลแกรมของเหล่าวิญญาณ!
"กรี๊ดดดดดดดดดด!"
เหล่าวิญญาณกรีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย... ไม่ใช่ด้วยความโกรธ... แต่ด้วยความตกตะลึง... เมื่อถูก "พลังแห่งชีวิต" ที่ดิบเถื่อนและหิวกระหายเข้ากลืนกิน... พวกเขาพุ่งเข้าใส่เถาวัลย์ที่กำลังเติบโต พยายามจะใช้ความเย็นเยียบแห่งความตายดับแสงสว่างแห่งชีวิต!
มันคือสงครามระหว่างพลังงานสองขั้ว! แสงสีเขียวของเถาวัลย์ปะทะกับแสงสีแดงฉานของเหล่าวิญญาณจนเกิดเป็นประกายไฟที่มองไม่เห็น! ร่างโปร่งแสงของเหล่าวิญญาณถูกเถาวัลย์ฉีกกระชาก... พลังงานแห่งความแค้นถูกดูดกลืนเข้าไป... กลายเป็นอาหารให้กับป่าที่กำลังถือกำเนิดขึ้นใหม่...
นครเงียบ... กำลังถูกฝังทั้งเป็น... ใต้ป่าที่เกิดจากความสิ้นหวัง!
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะชนะแล้ว...
แต่แล้ว...
ตูมมมมมมมมมมมม!
กำแพงหินที่เคยใช้ปิดปากถ้ำไว้ ถูกกระแทกจากด้านนอกจนแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ! และร่างมหึมาที่ลุกเป็นไฟของเสืออาถรรพ์... ก็ก้าวเข้ามาในถ้ำที่บัดนี้กลายเป็นสวนเรืองแสง... ดวงตาสีแดงฉานของมันจ้องมองมาที่พวกเขา... มันถูกดึงดูดเข้ามาโดยพลังแห่งชีวิตมหาศาลที่พวกเขาสร้างขึ้น!
พวกเขาหนีจากวิญญาณร้าย... เพียงเพื่อจะมาเผชิญหน้ากับอสูรกายที่จับต้องได้!
เสียงคำรามสุดท้ายของเสือร้ายไม่ได้จางหายไปในป่า... แต่มันกลับดังก้องกังวานอยู่ภายในถ้ำ! ร่างมหึมาที่ลุกเป็นไฟของมันก้าวข้ามซากกำแพหินที่พังทลายเข้ามาอย่างช้าๆ มันไม่ได้รีบร้อน มันคือพญานักล่าที่รู้ดีว่าเหยื่อทั้งหมดได้ถูกต้อนเข้ามาอยู่ในกรงขังของมันแล้ว
ดวงตาสีแดงฉานของมันกวาดมองไปทั่ว... มันเห็นป่าเรืองแสงที่งอกเงยขึ้นมาเต็มพื้นที่... มันสูดหายใจเข้าลึก... และเปลวไฟบนร่างของมันก็ลุกโชนรุนแรงขึ้นอีก! พลังชีวิตที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อขับไล่วิญญาณ บัดนี้ได้กลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นเลิศให้กับอสูรกายตรงหน้า!
"บ้าที่สุด!" เร็กซ์คำรามลั่น เขาเป็นคนแรกที่ได้สติกลับคืนมา เขาผลักลีน่าและไลราให้ไปหลบอยู่ข้างหลัง แล้วเปิดฉากยิงปืนพลังงานในมือใส่เสือร้ายทันที!
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ลำแสงพลาสมาพุ่งเข้าใส่ร่างของมันอย่างจัง! แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม! ขนสีดำสนิทของมันดูดซับพลังงานเหล่านั้นเข้าไปจนหมดสิ้น และเปลวไฟสีเลือดบนร่างของมันก็ยิ่งลุกโชนรุนแรงขึ้น!
"มันกินพลังงาน!" เอลารากรีดร้อง "การยิงของเรากำลังทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น!"
"หยุดยิง!" ครามตะโกนก้อง เขาไม่จำเป็นต้องมีล่ามเพื่อสื่อสารความหมายนั้น เขากระโจนออกมาข้างหน้าทีมจากดุษฎีนครราวกับเป็นกำแพงมนุษย์ "นี่ไม่ใช่ศัตรูของพวกเจ้า! ถอยไป!"
เสือร้ายที่ถูกยั่วโทสะ ไม่รอช้า มันพุ่งเข้าใส่ครามทันที!
แต่ครามไม่ได้ยืนรอรับความตาย เขาส่งเสียงร้องคำรามแบบเดียวกับที่ใช้ในพิธีกรรม และพรานอีกสองคนก็พุ่งออกมาจากเงามืดของป่าเรืองแสง เข้าขนาบข้างเสือร้ายจากคนละทิศทาง! มันคือการทำงานเป็นทีมที่ฝึกฝนกันมาทั้งชีวิต!
พรานคนหนึ่งเหวี่ยงหอกเข้าใส่ข้อต่อขาหน้าของมันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เคร้ง! ในขณะที่อีกคนก็ใช้มีดสั้นที่ทำจากกระดูกสัตว์กรีดเข้าที่สีข้างของมันอย่างรวดเร็ว!
เสือร้ายสะบัดตัวอย่างรุนแรงจนพรานทั้งสองกระเด็นไปคนละทิศละทาง แต่มันก็ซื้อเวลาให้ครามได้สำเร็จ! เขาไม่ได้พุ่งเข้าใส่ตรงๆ แต่กลับใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีวิ่งไต่ไปตามรากไม้เรืองแสงที่ใหญ่ที่สุดราวกับเป็นส่วนหนึ่งของป่า และกระโจนลงมาจากเบื้องบน!
ฉึก!
ขวานหินในมือของเขาจามเข้าที่กลางแผ่นหลังของเสือร้ายอย่างจัง! มันไม่ได้สร้างบาดแผลลึก... แต่ยาพิษสีดำสนิทที่อาบอยู่บนคมขวานก็เริ่มทำงานทันที! เปรี๊ยะ! เกิดควันดำพวยพุ่งออกมาจากบาดแผล!
"โหกกกกกกกกกกกก!"
เสือร้ายกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและพิโรธ! มันหันมาสะบัดร่างอย่างบ้าคลั่งจนครามต้องรีบดีดตัวถอยออกมา!
การต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มันคือระบำมรณะระหว่างนักรบแห่งพงไพรกับอสูรกายในตำนาน พวกเขาใช้ป่าที่เพิ่งเกิดใหม่เป็นทั้งที่กำบังและสนามรบ หลอกล่อ... โจมตี... แล้วหายไปในเงามืด... ทิ้งให้ทีมจากดุริยนครทำได้เพียงยืนมองอย่างตกตะลึง พวกเขาคืออัจฉริยะของโลก... แต่ในสมรภูมินี้... พวกเขาเป็นเพียงเด็กทารก
เสือร้ายที่คลุ้มคลั่งเริ่มอาละวาดหนักขึ้น มันหวดกรงเล็บไฟเข้าใส่ทุกสิ่งที่ขวางหน้า ฉัวะ! เถาวัลย์เรืองแสงขาดสะบั้น! ตูม! มันใช้หัวกระแทกซากกำแพงจนถล่มลงมา!
นักรบคนหนึ่งพลาดท่า! เขาหลบการโจมตีไม่ทันและถูกหางที่ลุกเป็นไฟฟาดเข้าอย่างจัง! อ๊ากก! ร่างของเขากระเด็นไปอัดกับผนังถ้ำและแน่นิ่งไป!
"ทอร์!" ครามคำรามชื่อลูกน้องของเขาออกมาด้วยความเดือดดาล!
ความโกรธแค้นและความสิ้นหวังในแววตาของเขาเด่นชัดท่ามกลางแสงเรืองรองของป่ามรณะ
เสือร้ายไม่ได้สนใจเหยื่อที่บาดเจ็บอีกต่อไป มันรู้ดีว่าใครคือหัวใจของนักรบกลุ่มนี้ มันหันขวับมาเผชิญหน้ากับครามโดยตรง! เปลวไฟบนร่างของมันลุกโชนรุนแรงขึ้นอีก! มันกำลังจะปิดฉากหัวหน้าพราน!
ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ลีน่ายืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง เธอไม่ได้มองการต่อสู้... แต่กำลังมอง "สนามรบ" ทั้งหมดด้วยสายตาของนักวิเคราะห์... และเธอก็เห็นมัน... ความจริงที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด
ทุกครั้งที่กรงเล็บของมันฟาดทำลายเถาวัลย์เรืองแสง... เปลวไฟบนร่างของมันจะสว่างวาบขึ้น... แต่ทุกครั้งที่มันเผลอไปสัมผัสกับผนังถ้ำที่เย็นและตายด้าน... เปลวไฟกลับหรี่แสงลงเล็กน้อย...
มันไม่ได้กินพลังงาน... มันกิน 'พลังชีวิต' ต่างหาก! ความคิดนั้นแล่นเข้ามาในหัวของลีน่า! ป่าที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อชำระล้างวิญญาณ... ได้กลายเป็นบุฟเฟ่ต์ชั้นเลิศให้กับอสูรกายตัวนี้!
"เร็กซ์!" เธอตะโกนสั่งการเสียงดังลั่น "อย่ายิงที่ตัวมัน! ยิงใส่ป่า! ทำลายสวนนี่ทิ้งซะ!"
"อะไรนะ!" เร็กซ์หันมามองอย่างไม่เชื่อหู "นี่คือสิ่งเดียวที่ช่วยโอไรออนนะ!"
"โอไรออนปลอดภัยแล้ว! แต่วิญญาณพวกนั้นได้กลายเป็นปุ๋ยให้สวนนี่ไปแล้ว! และตอนนี้สวนนี่ก็กำลังกลายเป็นอาหารให้เสือตัวนี้!" ลีน่าคำรามกลับ "เราต้องทำให้มันอดตาย!"
มันคือแผนการที่บ้าคลั่ง... คือการทำลายชัยชนะที่เพิ่งจะได้มาด้วยน้ำมือของตัวเอง!
ครามที่กำลังจะพุ่งเข้าปะทะกับเสือร้ายเพื่อล้างแค้นให้ลูกน้อง ได้ยินเสียงของลีน่าผ่านล่ามของลินดา เขาหยุดชะงักและหันขวับมามองเธอด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ!
"เจ้าจะให้ข้าทำลายผืนป่าศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งถือกำเนิดรึ! เจ้าเสียสติไปแล้ว!" เขาตะโกนก้อง
"มันไม่ใช่ป่าศักดิ์สิทธิ์!" ลีน่าเถียงกลับ "มันคือแบตเตอรี่ของมัน! ดูสิ!"
เสือร้ายไม่รอช้า พุ่งเข้าใส่คราม! แต่ในจังหวะนั้นเอง รากไม้เรืองแสงที่อยู่ใกล้ตัวมันที่สุดก็ส่องสว่างวาบขึ้น และเปลวไฟบนร่างของมันก็ลุกโชนรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
ครามเห็นภาพนั้นด้วยตาของตัวเอง... เขาเข้าใจแล้ว... ตรรกะที่เย็นชาและโหดร้ายของหญิงสาวจากต่างโลก... มันคือความจริง
เร็กซ์ไม่รอคำยืนยันอีกต่อไป เขาเชื่อมั่นในตัวผู้นำของเขา เขาหันปากกระบอกปืนไปยังรากไม้เรืองแสงที่ใหญ่ที่สุดแล้วเหนี่ยวไก!
ตูมมมมมมม!
รากไม้ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ! แสงสีเขียวที่เคยส่องสว่างดับวูบลง!
เสือร้ายที่กำลังจะถึงตัวครามชะงักไปกลางคัน! มันหันไปมอง "อาหาร" ของมันที่กำลังถูกทำลายอย่างสับสน! เปลวไฟบนร่างของมันหรี่แสงลงอย่างเห็นได้ชัด!
"ยิงต่อไป!" ลีน่าคำราม "ทำลายให้หมด!"
ทีมจากดุษฎีนครเริ่มระดมยิงใส่ป่าที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง ป่าที่เคยเติบโตอย่างน่าอัศจรรย์ บัดนี้กลับเริ่มเหี่ยวเฉาและเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว! แสงสว่างแห่งชีวิตค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความมืดและความตายอีกครั้ง!
เสือร้ายที่เห็นแหล่งพลังงานของตัวเองกำลังจะหมดไป มันก็คลุ้มคลั่งอย่างถึงขีดสุด มันหันมามองกลุ่มของลีน่าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเปล่งเสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความพ่ายแพ้ออกมา... แล้วหันหลังวิ่งกลับเข้าไปในความมืดของอุโมงค์ที่มันพังเข้ามา... หายลับไป
ความเงียบ... ได้กลับคืนมาสู่ถ้ำอีกครั้ง...
แต่ครั้งนี้... มันคือความเงียบของซากปรักหักพังอย่างแท้จริง พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางซากเถาวัลย์ที่เน่าเปื่อยและยังคงมีควันกรุ่นๆ ลอยขึ้นมา... อ่อนล้า... บอบช้ำ... แต่ยังมีชีวิตอยู่
โอไรออนค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น... เสียงกรีดร้องในหัวของเขาหายไปแล้ว...
พวกเขาชนะแล้ว...
ลีน่าทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เธอมองไปยังครามและเหล่านักรบของเขาที่ยืนอยู่คนละฟากของถ้ำ... พวกเขาไม่ได้มองกันในฐานะศัตรูอีกต่อไปแล้ว... แต่คือสายตาของเหล่าทหารผ่านศึกที่เพิ่งจะรอดตายจากสมรภูมินรกมาด้วยกัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 102
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น