บทที่ 374 ดยุกกอลลอส
บทที่ 374 ดยุกกอลลอส
ตอนที่ลู่หยางกระโดดขึ้นไปบนรูเพดาน ตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังคงอยู่ห่างออกไปมากกว่า 30 เมตร อย่างไรก็ตามหากทุกคนมองไปทางด้านหลัง พวกเขาก็จะได้พบกับฝูงตั๊กแตนกลายพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วน
“พี่ไปทำอะไรมาถึงล่อมอนสเตอร์มาได้เยอะขนาดนี้?” ฮั่นอวี่ถามอย่างจริงจัง เพราะปกติหน้าที่การล่อมอนสเตอร์มักจะเป็นหน้าที่ของนักธนู
“ความจริงมันก็เลียนแบบยากอยู่เหมือนกันนะ” ลู่หยางกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ ก่อนที่เขาจะอธิบายวิธีการล่อมอนสเตอร์ในครั้งนี้ให้เด็กหนุ่มฟัง
“พี่คราวหลังอย่าล่อพวกมันมาแบบนี้อีกนะ” ฮั่นอิ่งพูดอย่างอึ้ง ๆ
“มีครั้งนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ คราวหน้าถึงพี่จะพยายามล่อพวกมันมาแต่มันก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว” ลู่หยางกล่าวก่อนที่จะส่งหัวใจแห่งเทพอสูรและคทามาจิสเตอร์ไปให้กับมู่หยู
“พี่เอามาให้หนูทำไมคะ?” มู่หยูถาม
“เอาของพวกนี้ไปใส่แล้วใช้เวทมนตร์ต้องห้ามของเธอถล่มพวกมันซะ” ลู่หยางตอบ
การสวมใส่อุปกรณ์ทั้ง 2 ชิ้นนี้พร้อม ๆ กันจะทำให้ผู้เล่นสามารถโจมตีทะลุพลังป้องกันทางเวทมนตร์ได้เกือบ 70% ขณะเดียวกันเวทมนตร์ต้องห้ามธาตุสายฟ้าของมู่หยูก็มีพลังโจมตีพื้นฐานอยู่มากกว่า 2,000 หน่วย และสามารถคงอยู่ได้นานถึง 30 วินาที เมื่อรวมสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกันมันก็หมายถึงเด็กสาวสามารถกวาดล้างฝูงมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านล่างได้อย่างง่ายดาย
“ไว้ใจหนูได้เลยค่ะ” มู่หยูกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย
หลังจากทำการติดตั้งอุปกรณ์แล้วมู่หยูก็เริ่มท่องคาถาทำให้ใน 10 วินาทีต่อมาบนท้องฟ้าก็มีสายฟ้าฟาดลงไปเข้าใส่ตั๊กแตนกลายพันธุ์ทางด้านล่างอย่างต่อเนื่อง
-2,086
-2,103
......
ทุก ๆ 8 วินาทีจะมีตั๊กแตนกลายพันธุ์เสียชีวิตไปมากกว่า 500 ตัวทำให้แถบการแจ้งเตือนของทุกคนมีการแจ้งเตือนจากระบบเด้งขึ้นมาไม่หยุด
ระบบ: คุณได้รับค่าประสบการณ์ 3,184 หน่วย (รวมโบนัสค่าประสบการณ์จากการล่ามอนสเตอร์เลเวลสูงกว่า 2,600 หน่วย)
...
พายุสายฟ้าคงอยู่เป็นเวลานาน 30 วินาทีและสามารถสังหารมอนสเตอร์ลงไปได้มากกว่า 3,000 ตัว การปล่อยเวทมนตร์ต้องห้ามของมู่หยูครั้งนี้เพียงแค่ครั้งเดียวจึงทำให้ทุก ๆ คนได้รับค่าประสบการณ์กันคนละมากกว่า 9 ล้านหน่วย
การเพิ่มเลเวลจาก 36 ไปเป็น 37 จำเป็นจะต้องใช้ค่าประสบการณ์ 54 ล้านหน่วย ดังนั้นถึงแม้การกวาดล้างมอนสเตอร์ในครั้งนี้จะยังไม่มากพอที่จะทำให้เลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังทำให้แถบค่าประสบการณ์ของทุกคนเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก
ลู่หยางรับหัวใจแห่งเทพอสูรและคทามาจิสเตอร์คืนมาจากมู่หยู ก่อนจะพูดว่า
“คราวนี้ถึงตาฉันบ้างแล้ว”
เมเทโอเชาเวอร์!
ทันทีที่ชายหนุ่มร่ายเวทมนตร์ต้องห้ามจนเสร็จ พื้นที่ในรัศมี 200 เมตรก็ถูกปกคลุมไปด้วยลูกไฟขนาดใหญ่ที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
-2,388
...
ตั๊กแตนกลายพันธุ์เพิ่งจะวิ่งเข้ามาแทนที่พรรคพวกของพวกมันได้เพียงแค่ไม่นาน พวกมันจึงได้รับความเสียหายมหาศาลก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาไม่ถึง 8 วินาที
เหล่าบรรดาตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่อยู่วงนอกยังคงวิ่งเข้ามาแทนที่พรรคพวกที่เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในอีก 8 วินาทีต่อมาพวกมันก็เสียชีวิตลงไปอีกกลุ่มใหญ่
เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น 3 ครั้งติดต่อกันและเมื่อผลของสกิลเมเทโอเชาเวอร์จบลง ตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่อยู่ด้านล่างก็เหลือจำนวนอยู่ไม่มากแล้ว
ลู่หยางมองสำรวจแถบค่าประสบการณ์ของตัวเองและได้พบว่าค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นมาจากเดิมมากกว่า 27 ล้าน และมันก็อยู่ห่างจากการเพิ่มไปยังเลเวลต่อไปเพียงแค่ไม่กี่แสนเท่านั้น
“เก็บเลเวลแบบนี้มันจะเร็วเกินไปแล้ว” ฮั่นเฟยกล่าว
ลู่หยางเริ่มทำการปล่อยไฟร์วอลล์ลงบนพื้นเพื่อสร้างทะเลเพลิง จากนั้นเขาก็ขว้างน้ำยาเอคโคออฟเมจิกพร้อมกับส่งหัวใจแห่งเทพอสูรและคทามาจิสเตอร์ไปให้กับฮั่นอิ่ง
“ฮั่นอิ่ง เธอก็มีสกิลไฟร์วอลล์อยู่ใช่ไหม? หลังจากนี้เธอกับมู่หยูก็ใช้ของพวกนี้ร่วมกันฆ่ามอนสเตอร์ไปนะ”
“พี่จะไปไหนเหรอคะ?” ฮั่นอิ่งถาม
“ฉันจะไปจัดการธุระนิดหน่อย อีกเดี๋ยวก็กลับมา” ลู่หยางตอบ
วิหารเทพอสูรได้ทำการบันทึกพิกัดนี้เอาไว้ให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตราบใดก็ตามที่เขายังคงไม่เปลี่ยนพิกัด เขาก็สามารถทำการวาร์ปมายังพื้นที่จุดนี้ได้ตลอดเวลา
“ระหว่างนี้ห้ามทำหัวใจแห่งเทพอสูรหายเป็นอันขาดเลยนะ นี่คือไพ่ตายของพี่ ถ้ามันหายไปแล้วความแข็งแกร่งของพี่ก็จะลดลงไปไม่น้อยกว่า 50%” ลู่หยางกล่าว
พวกฮั่นอิ่งต่างก็รู้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มีความหมายกับลู่หยางมากแค่ไหน ทุกคนจึงพยักหน้าและรับปากขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
“หวังว่าตอนฉันกลับมาทุกคนจะเลเวล 50 กันแล้วนะ” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตไปยังวิหารเทพอสูร จากนั้นเขาก็เดินทางผ่านบ้านของคาห์นไปยังเมืองเซนต์กอลล์
ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้ใช้เสื้อคลุมปลอมตัวเพื่อเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นผู้เล่นธรรมดา จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังค่ายก็อบลินที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง
“โอ้สหาย! นายรู้ไหมว่าฉันกำลังตามหานายอยู่พอดีเลย” บีเซลพูดอย่างดีใจหลังจากที่ได้เห็นลู่หยางเดินเข้ามา
“มีอะไรงั้นเหรอ?” ลู่หยางถาม
“ลุงของฉันกำลังเจอปัญหาแล้วมันก็มีเพียงแต่คนที่มีพลังแบบนายเท่านั้นถึงจะช่วยเขาได้ ฉันหวังว่านายจะไปช่วยเขาเพื่อเห็นแต่มิตรภาพของพวกเราด้วย” บีเซลขอร้อง
ลู่หยางรู้อยู่แล้วว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจเบิกทางไปสู่การสร้างอาณาจักรของเผ่าก็อบลิน ซึ่งมันก็มีเพียงแต่ผู้เล่นที่มีเลเวลเกิน 35 เท่านั้นจึงจะสามารถรับภารกิจนี้ได้
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ว่าแต่ตอนนี้ลุงของคุณอยู่ที่ไหน?” ลู่หยางถาม
“คุณลุงกำลังขุดผลึกเวทมนตร์อยู่ที่ซอร์ลินแลนด์ เขาบอกคุณว่าถ้านายต้องการอะไรเขาก็จะพยายามจัดหามาให้นายทุกอย่าง ขอบอกเลยนะว่าที่นั่นมีของดีมากกว่าของที่ฉันมีอยู่อีก” บีเซลกล่าว
“โอเค ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” ลู่หยางกล่าว
หลังจากบอกลาบีเซล ลู่หยางก็มุ่งหน้าตรงไปยังซอร์ลินแลนด์ซึ่งเป็นแผนที่เลเวล 35 โชคดีที่แผนที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากป้อมปราการคริมสันมากนัก เขาจึงทำการเทเลพอร์ตไปยังป้อมปราการและใช้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดวิ่งไปยังเป้าหมายในเวลาไม่ถึง 20 นาที
ซอร์ลินแลนด์เป็นผืนป่าอันหนาทึบรายล้อมด้วยภูเขาอันสูงชัน ซึ่งหลังจากที่ลู่หยางเดินเข้าไปภายในป่าเพียงแค่ไม่นาน เขาก็ได้เห็นค่ายก็อบลินที่ถูกสร้างล้อมด้วยรั้วไม้
“นายเป็นใคร?” ก็อบลินที่ยืนอยู่บนหอคอยไม้ตะโกนถาม
ลู่หยางเดินเข้าไปใกล้หอคอย ก่อนที่เขาจะตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“บีเซลส่งฉันมาที่นี่ นี่คือจดหมายรับรองที่เขาให้ฉันมา”
โมลินผู้ซึ่งเป็นก็อบลินบนหอคอยมองไปยังลู่หยางด้วยแววตาอันเป็นประกาย ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่า
“ขอบคุณองค์ชายที่เมตตา คุณรีบตามผมเข้าไปทางด้านในเถอะ ท่านดยุกกำลังรอคุณอยู่”
ลู่หยางชะงักไปครู่หนึ่งและทันใดนั้นเขาก็เริ่มไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมบีเซลถึงบอกว่าที่นี่เขาสามารถซื้อของได้อย่างมากมาย เพราะที่แท้ลุงที่บีเซลพูดถึงก็มียศเป็นถึงดยุกนั่นเอง
ลู่หยางเดินตามโมลินเข้าไปภายในค่าย ซึ่งค่ายแห่งนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่มากพอสมควร อาคารทุกหลังต่างก็ทำขึ้นมาจากไม้และตรงบริเวณกลางค่ายก็มีหุ่นยนต์ตัดต้นไม้ของก็อบลินเดินอยู่ทั่ว
หลังจากพวกเขาเดินทางมาถึงอาคารหลังใหญ่ที่สุด โมลินก็เดินเข้าไปหาก็อบลินที่สวมแว่นตาพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างนอบน้อม
“ท่านดยุก มนุษย์ที่ท่านบีเซลเชิญมาเดินทางมาถึงแล้วครับ”
“สวัสดีครับท่านดยุก ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ผมรับใช้งั้นเหรอครับ?” ลู่หยางก้าวเท้ามาข้างหน้าพร้อมกับพูดอย่างนอบน้อม
จากข้อมูลในชาติก่อนเผ่าก็อบลินคือเผ่าที่ชอบให้คนอื่นให้ความเคารพ ดังนั้นยิ่งผู้เล่นแสดงความเคารพออกมามากเท่าไหร่ ค่าชื่อเสียงของพวกเขาที่มีต่อเผ่าก็อบลินก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเร็วเท่านั้น
ดยุกกอลลอสมองท่าทางอันนอบน้อมของลู่หยาง ก่อนที่เขาจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“พลังของนายมากพอที่จะทำภารกิจนี้ได้แล้ว เพื่อนชาวมนุษย์ฉันต้องขอขอบคุณที่นายยอมเดินทางไกลออกมาเพื่อช่วยเหลือพวกเรา”
ระบบ: ค่าชื่อเสียงของคุณในสมาคมช่างหินเพิ่มขึ้น 100 หน่วย
ระบบ: ความสัมพันธ์ของคุณกับดยุกกอลลอสเพิ่มขึ้น 10 หน่วย
ลู่หยางแอบเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจ หลังจากที่ได้เห็นค่าชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างว่องไวเหมือนกับในข้อมูลที่เขาเคยได้อ่านเมื่อชาติก่อนจริง ๆ
“ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ผมช่วยเหลือครับ?”
ไม่ได้ของดีก็ต้องเงินดีล่ะทีนี้ 555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 232
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น