บทที่ 371 สิ่งมีชีวิตโบราณ
บทที่ 371 สิ่งมีชีวิตโบราณ
ฮี้ส!
ผู้พิทักษ์ซากโบราณทั้ง 6 ตัวส่งเสียงร้องขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนที่พวกมันจะบินเข้ามาหาลู่หยาง
แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงแค่มอนสเตอร์ระดับกึ่งอีลิท แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดที่จะประมาท เขาจึงทำการท่องคาถาปล่อยสกิลเบลซซิงเบิร์สออกมา 6 ลูกเพื่อจู่โจมเข้าใส่ผู้พิทักษ์ซากโบราณทั้ง 6 ตัว
-1
หลังจากผู้พิทักษ์ซากโบราณสูญเสียพลังชีวิตไป พลังชีวิตของมันก็ฟื้นฟูกลับมาจนเต็มในทันที ซึ่งในระหว่างนั้นพวกมันก็ยังคงพุ่งเข้ามาหาลู่หยางอย่างต่อเนื่อง
“ไม่ตาย?!” ลู่หยางอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
เขาเคยเจอมอนสเตอร์แบบนี้มาแล้วในชาติก่อน ซึ่งมันก็จำเป็นจะต้องใช้วิธีการพิเศษถึงจะฆ่ามอนสเตอร์เหล่านี้ได้ ขณะเดียวกันการที่มอนสเตอร์มีพลังชีวิตเพียงแค่ 1 หน่วย มันก็หมายความว่าทางผู้พัฒนาได้เอาค่าสถานะอื่น ๆ ไปรวมไว้ที่พลังโจมตี ดังนั้นผู้พิทักษ์ซากโบราณเหล่านี้น่าจะมีพลังโจมตีเกือบ 10,000 หน่วย
เมื่อได้เห็นมอนสเตอร์ทั้ง 6 บุกเข้ามา ลู่หยางก็ใช้มีดเอสเคพเดจเจอร์กระโดดออกไปจากตำแหน่งเดิม 30 เมตร
ฟี้ส!
จู่ ๆ ตั๊กแตนกลายพันธุ์กว่า 10 ตัวก็โผล่หัวขึ้นมาจากหลุมทางด้านหลัง และเมื่อพวกมันได้เห็นลู่หยางตั๊กแตนเหล่านี้ก็รีบพุ่งเข้าใส่นักเวทหนุ่มอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ลู่หยางตกอยู่ในความยากลำบากในทันที เขาจึงรีบใช้สกิลแฟลชเทเลพอร์ตหลบหนีออกไปยังเส้นทางที่เขาได้เดินเข้ามา และเมื่อเขาได้เดินออกจากเขตซากโบราณสถาน เหล่าบรรดาผู้พิทักษ์ซากโบราณก็ไม่ไล่ตามเขามาอีกต่อไป ศัตรูของเขาในตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่ตั๊กแตนกลายพันธุ์กว่า 10 ตัวที่กำลังวิ่งไล่มาเท่านั้น
ชายหนุ่มได้ทำการหลอกล่อพวกมันไปยังบริเวณหลุมบนเพดานเช่นเดิม และทันทีที่เขากระโดดขึ้นไปบนเพดานฮั่นอิ่งก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ทำไมรอบนี้มีน้อยจังล่ะคะ?”
“ฉันบังเอิญไปเจอสถานที่พิเศษ เดี๋ยวทุกคนช่วยตามฉันไปที่นั่นหน่อยนะ” ลู่หยางกล่าว
ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะพวกเขานั่งอยู่ที่นี่เฉย ๆ มา 2 วันแล้ว หลังจากลู่หยางจัดการพวกตั๊กแตนกลายพันธุ์จนหมด ทุกคนก็กระโดดลงไปจากเพดานเพื่อเข้าไปยังซากโบราณสถานด้วยกัน
ระหว่างทางลู่หยางก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง ก่อนที่เขาจะสั่งขึ้นมาว่า
“ทุกคนรอดูอยู่ข้างนอกก็พอ เดี๋ยวฉันจะไปล่อพวกมันออกมา”
ทันทีที่พูดจบลู่หยางก็เดินขึ้นบันไดไปยังลานของซากโบราณสถานอีกครั้ง แน่นอนว่าเสาหินทั้ง 6 ต้นก็ได้เปล่งแสงสีขาวก่อนที่มันจะมีผู้พิทักษ์ซากโบราณสถานทั้ง 6 ตัวปรากฏขึ้นมา
ลู่หยางยังคงพยายามโจมตีเข้าใส่ผู้พิทักษ์เหล่านี้ต่อไป แต่เขาก็ยังไม่สามารถสังหารพวกมันได้เช่นเดิม ระหว่างนั้นตั๊กแตนกลายพันธุ์อีก 10 ตัวก็ปรากฏขึ้นมา แต่ในระหว่างที่เขากำลังจะถอยออกไปนั้น จู่ ๆ ฮั่นอิ่งก็ตะโกนขึ้นมาว่า
“พี่ บางทีพวกเราอาจจะต้องโจมตีเสาหินตามลำดับแสงสว่างที่มันปรากฏขึ้นมาหรือเปล่า?”
ลู่หยางพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะใช้เบลซซิงเบิร์ส 6 ลูกยิงเข้าใส่เสาหินทั้ง 6 ต้นตามลำดับเท่าที่เขาพอจะจำได้
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากบนลานอย่างไร้ที่มา แล้วพวกตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่กำลังบุกเข้ามาก็ดูเหมือนกับว่าจะเห็นอะไรบางอย่าง พวกมันจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปภายในหลุมอย่างร้อนรน
ผู้พิทักษ์ซากโบราณสถานทั้ง 6 ตัวหายไปจากตำแหน่งเดิมอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงเสาหินทั้ง 6 ต้นที่ยังคงส่องสว่างอยู่อย่างนั้น
วินาทีต่อมามันก็มีแสงสีน้ำตาลส่องสว่างขึ้นอย่างกะทันหันพร้อมกับพื้นที่ตรงบริเวณกลางลานที่มีมอนสเตอร์สูง 15 เมตรปรากฏตัวขึ้นมา
มอนสเตอร์ตัวนี้สวมใส่ชุดเกราะสีเทา ลำแขนของพวกมันมีลักษณะคล้ายกับเคียว ลำตัวมีลักษณะเหมือนกับงูและบริเวณด้านหลังมันก็มีปีกสีเทาอยู่คู่หนึ่ง
สิ่งมีชีวิตโบราณ (บอส)
เลเวล 80
พลังชีวิต: 3,000,000/3,000,000
“ตัวอะไรเนี่ย น่าเกลียดจัง” มู่หยูกล่าว
“ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไรพวกเราก็รีบถอยกันก่อนเถอะ ทุกคนรีบกลับไปรอที่ลานกว้างด้านนอกซะ” ลู่หยางสั่งการอย่างรวดเร็ว
เคียวทั้ง 2 อันของสิ่งมีชีวิตโบราณมีความยาวมากกว่าตัวของลู่หยางซะอีก และถึงแม้ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาอันค่ำคืน แต่ทุกคนก็ยังคงมองเห็นแสงประกายจากเคียวของมันได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นบอสเลเวล 80 แต่มันก็มีพลังชีวิตอยู่ในระดับที่น้อยมาก ซึ่งมันก็หมายความว่าพลังโจมตีของมันจะต้องอยู่ในระดับที่สูงมากแน่ ๆ
ลู่หยางหยิบน้ำยาเอคโคออฟเมจิกออกมา ก่อนจะทำการขว้างมันออกไปเข้าใส่สิ่งมีชีวิตโบราณอย่างแรง
พลาด!
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายหนุ่มเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง เพราะเขาเพิ่งจะเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก
“ทุกคนรีบหนีเร็วเข้า พวกเราสู้มันไม่ได้!”
เมื่อลู่หยางเน้นย้ำคำสั่งฮั่นอิ่งก็รีบพาทุกคนวิ่งออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ซึ่งในระหว่างนั้นลู่หยางก็ได้ท่องคาถาเพื่อทำการยิงเบลซซิงเบิร์สเข้าใส่หัวของบอส
-1 (คริติคอล)
โฮ่ว!
สิ่งมีชีวิตโบราณยกเคียวทั้ง 2 อันขึ้นมาไขว้กันไว้ตรงบริเวณด้านหน้า จากนั้นมันก็ร้องคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยวและพุ่งเข้าหาลู่หยางด้วยความรวดเร็ว
ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาสิ่งมีชีวิตโบราณก็สามารถบินออกไปได้ไกลกว่า 30 เมตร แต่ในระหว่างที่มันกำลังยกเคียวขึ้นมาฟัน ร่างของลู่หยางก็ได้กลายเป็นแสงสว่างหายไปจากตำแหน่งเดิมเสียก่อน
แฟลช!
ทันทีที่ลู่หยางปรากฏตัวห่างจากตำแหน่งเดิม 30 เมตร เขาก็เปิดใช้งานสกิลสคอร์ชิ่งสปีดพร้อมกับวิ่งอ้อมไปอีกทางหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังลานกว้างอย่างรวดเร็ว
สิ่งมีชีวิตโบราณร้องคำรามพร้อมกับไล่ตามลู่หยางไป ซึ่งความเร็วระหว่างทั้งสองฝ่ายค่อนข้างจะใกล้เคียงกันมาก เพียงแต่ลู่หยางมีความเร็วอยู่สูงกว่าบอสเล็กน้อย
เมื่อวิ่งมาจนถึงลานกว้างระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็น 35 เมตร แต่ผลของสกิลสคอร์ชิ่งสปีดอยู่ได้เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เขาจึงวิ่งหนีออกไปด้านนอกสปิริตอะคาเดมี่
อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตโบราณก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย เมื่อลู่หยางเห็นว่าผลของสกิลสคอร์ชิ่งสปีดเหลือไม่ถึง 30 วินาที เขาจึงตัดสินใจแปลงร่างกลายเป็นอสูรเพลิง
ในร่างอสูรเพลิงเขาจะสามารถใช้เวทมนตร์ธาตุไฟได้โดยไม่ติดคูลดาวน์ ซึ่งมันก็หมายถึงเขาสามารถใช้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดได้อย่างไม่มีจำกัด เขาจึงเปิดใช้งานสคอร์ชิ่งสปีดอีกครั้งพร้อมกับวิ่งหนีออกไปทางด้านหน้า
“ให้พวกเราลองโจมตีดูไหมคะ?” ฮั่นอิ่งตะโกนถาม
“ใจเย็น ๆ ทุกคนค่อย ๆ ไล่ตามมาด้านหลัง เดี๋ยวฉันจะล่อมันไปที่ ๆ หนึ่ง” ลู่หยางตอบ
หากเขาจำไม่ผิดในแผนที่เลเวล 53 ที่อยู่ใกล้ ๆ มีจุดบัคจุดหนึ่งอยู่ หากเขาสามารถหลอกล่อสิ่งมีชีวิตโบราณให้ไล่ตามเขาไปได้เรื่อย ๆ บางทีเขาก็อาจจะใช้ประโยชน์จากจุดบัคจุดนี้ได้
—
ซากปรักหักพังทิชาน
ครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นดินแดนของดยุก ซึ่งในดยุกของดินแดนนี้ก็ได้สร้างป้อมปราการจากเหล็กสีแดงเพื่อใช้ในการต้านทานการรุกรานจากศัตรู
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันป้อมปราการแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างเอาไว้แล้ว แต่บริเวณกำแพงด้านขวาสุดของซากป้อมปราการมีรูที่ไม่รู้ว่ามันถูกทำลายจากอะไร และจุดบัคที่ลู่หยางกำลังหาอยู่นั่นก็คือรูบนกำแพงแห่งนี้นี่เอง
ในชาติก่อนมันเคยมีนักเวทระดับสูงโพสต์วิดีโอที่ตัวเขาท้าทายมอนสเตอร์เลเวลสูงทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีเลเวลอยู่น้อยมาก ซึ่งผู้เล่นคนนั้นได้หลอกล่อมอนสเตอร์มาตรงบริเวณรูบนกำแพงนี้ ก่อนจะใช้สกิลแฟลชเพื่อทะลุรูกำแพงไป ส่วนพวกมอนสเตอร์ก็จะวิ่งชนเข้ากับรูบนกำแพงเข้าอย่างจัง
ตามกฎของระบบเมื่อมอนสเตอร์ติดอยู่ในอะไรสักอย่าง พวกมันจะไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ ซึ่งมันก็จะติดอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะมีใครมาฆ่ามันจนตาย ร่างของมันถึงจะหายไปจากจุดที่ติดอยู่
ลู่หยางเคยใช้ประโยชน์จากรูบนกำแพงในชาติก่อนเพื่อฆ่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าด้วยเช่นกัน และเขาก็มักจะใช้รูกำแพงนั้นในการจัดการกับบอสบริเวณนี้อีกด้วย
หลังจากที่ลู่หยางวิ่งมาจนถึงซากป้อมปราการแล้ว เขาก็ได้พาสิ่งมีชีวิตโบราณวิ่งไปยังบริเวณกำแพงที่มีรูโหว่ในทันที
พื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากชาติก่อนเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาวิ่งมาจนถึงกำแพงที่มีรู เขาก็ตั้งใจหยุดยืนดูสิ่งมีชีวิตโบราณที่กำลังวิ่งไล่ตามมา
การใช้ประโยชน์จากจุดบัคจุดนี้มีข้อสำคัญคือผู้เล่นห้ามลงมือเร็วจนเกินไป เพราะถ้าหากเขาเทเลพอร์ตไปยังกำแพงอีกด้านหนึ่งอย่างฉับพลัน มอนสเตอร์ก็จะหักเลี้ยวไปทางอื่นเพื่อหาทางจัดการกับเขาแทน แต่ถ้าหากเขาเทเลพอร์ตช้าเกินไป ในเวลานั้นเขาก็จะถูกมอนสเตอร์สังหารด้วยเช่นกัน
ชายหนุ่มขยับร่างกายเล็กน้อยเพื่อเตรียมลงมือและทันทีที่สิ่งมีชีวิตโบราณเข้ามาในระยะ 30 เมตร เขาก็ใช้สกิลแฟลชตามสัญชาตญาณในระหว่างที่ร่างของบอสพุ่งตัวเข้ามาจนกลายเป็นเพียงแค่ภาพเงา
ชั่วขณะนั้นเคียวของสิ่งมีชีวิตโบราณได้ฟาดฟันเข้ามาจนชนเข้ากับรูโหว่บนกำแพงอย่างจัง ขณะที่ลู่หยางหายตัวไปปรากฏตัวอีกด้านของกำแพง ก่อนที่เขาจะมองดูสิ่งมีชีวิตโบราณที่ติดอยู่ในรูบนกำแพงก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เฮ้ออออ โล่งอกด้วย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 151
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น