บทที่ 285 กำเนิดกองกำลังพิทักษ์ราชินี

ในตอนที่ฉิงชาง, สามพี่น้องตระกูลไป๋, บิทเทอร์เลิฟและคนอื่น ๆ ที่ไม่มีทักษะการเต้นได้ยินว่าพวกเขาจะต้องทำการแสดง ทุกคนต่างก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นการแสดงในก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างก็ออกมาเต้นอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ซึ่งในท้ายที่สุดการเต้นแบบไม่มีทักษะแบบนี้กลับสามารถสร้างความสนุกสนานได้มากกว่าการเต้นแบบมืออาชีพเสียอีก

“ท่าเต้นหัวหน้าไป๋เหลิงโคตรตลกเลย!”

“รีบเอาหัวหน้าฉิงชางลงไปเถอะ ฉันหัวเราะจนจะตายอยู่แล้ว”

“ทำไมหัวหน้าเหมาชิวเต้นเหมือนคนขาหักแบบนั้นล่ะ”

ลู่หยางที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกรรมการหัวเราะขึ้นมาไม่หยุดและในที่สุดการแสดงก็มาถึงคิวของเซี่ยหยู่เว่ย

ในระหว่างที่ผู้ชมกำลังอารมณ์ค้างอยู่กับการแสดงที่ผ่านมา เซี่ยหยู่เว่ยในชุดที่สวยงามก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีพร้อมกับแดนเซอร์อีก 2 คน

ตอนแรกฉิงชาง, ไป๋เหลิงและคนอื่น ๆ กำลังพูดคุยกันข้างเวทีอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นเซี่ยหยู่เว่ยในชุดที่สวยงาม มันก็ทำให้พวกเขาอ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

ชุดที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ในขณะนี้คือชุดยาวทรงผีเสื้อ ริมฝีปากถูกทาด้วยลิปสีแดงเพลิงและสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือแววตาอันเย่อหยิ่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เธอได้มาซึ่งฉายาราชินีกุหลาบ ท่วงท่าที่เธอได้ร่ายรำออกมาก็ได้สะกดสายตาของผู้คนได้ทั่วทั้งโรงละคร

“โอ๊ยหัวใจจะวาย” ฉิงชางกล่าวพร้อมกับทรุดเข่าลงไปบนพื้น

เมื่อเหมาชิวได้เห็นท่าทางของสหาย เขาก็ยกมือขึ้นมาตบหน้าผากพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“น่าอายชะมัด รีบลุกขึ้นมาเร็วเข้า”

จางจื่อโป๋ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพูดออกไปว่า

“ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไปเถอะ ถึงฉันจะรู้จักกับหยู่เว่ยมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ฉันก็ยังทนกับความสวยของเธอในตอนนี้ไม่ได้เหมือนกัน”

ไป๋เหลิงถอนหายใจออกมาเฮือกยาว ก่อนจะถามออกไปว่า

“แล้วทำไมนายถึงไม่จีบเธอล่ะ?”

“นายก็ดูฉันสิว่าฉันคู่ควรกับเธอหรือเปล่า” จางจื่อโป๋กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาด้วยความขมขื่น

ไป๋เหลิงสะอึกไปอย่างฉับพลันก่อนที่เขาจะไม่กล้าพูดอะไรออกมา ท้ายที่สุดเมื่อพิจารณาจากความสง่างาม, สติปัญญาและแววตาที่เซี่ยหยู่เว่ยได้แสดงออกมา มันก็ทำให้เขาสามารถคาดเดาได้เลยว่าแม้แต่ทายาทเศรษฐีก็ยากจะเอาชนะหัวใจของผู้หญิงแบบนี้ได้

“นี่มันนางมารชัด ๆ หลังจากดูการแสดงของเธอแล้วชาตินี้ฉันก็คงจะไม่ชายตาไปมองผู้หญิงคนอื่นอีก” ฉิงชางกล่าว

ความจริงมันก็ไม่ได้มีเพียงฉิงชางคนเดียวที่มีความคิดแบบนั้น เพราะสมาชิกผู้ชายภายในกิลด์ต่างก็มีความคิดในลักษณะเดียวกันเกือบทั้งหมด

“ไม่ไหวแล้ว ฉันหัวใจจะวาย”

“ทำไมมันถึงมีสาวสวยแบบนี้อยู่ในโลกด้วยนะ”

“รีบอัดวีดีโอไว้เร็วเข้า เธอจะต้องโด่งดังไปทั่วโลก”

ผู้เล่นคนหนึ่งทำการบันทึกการแสดงในครั้งนี้เอาไว้ ก่อนที่เขาจะเอาไปโพสในอินเตอร์เน็ตพร้อมกับข้อความที่บอกว่า

“ราชินีกุหลาบแห่งบลัดบราเธอร์ช่างเต้นรำได้อย่างงดงามจริง ๆ”

—

ยามเย็น

หลังจากที่ผู้เล่นกลับมาพักผ่อนภายในเมือง พวกเขาก็เริ่มเปิดหน้าต่างเกมเพื่อท่องอินเตอร์เน็ต

“ชาร์มิ่งของบลัดเติสตี้โคตรสวยเลย”

“ลั่วซืออวี่ของเพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่สวยกว่าตั้งเยอะ รูปร่างเซ็กซี่กับสกิลไฟของเธอมันโคตรเข้ากันสุด ๆ”

“แต่ฉันชอบฉวยอู๋อี้ของโอเวอร์ลอร์ดมากกว่านะ ท่าทางอันเย่อหยิ่งของเธอ มันทำให้ฉันตกหลุมรักกลายเป็นทาสของเธอไปแล้ว”

หลังจากการต่อสู้ระหว่าง 5 กิลด์ใหญ่ได้จบลง ผู้เล่นก็เริ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนาจากเรื่องของสงครามเป็นเรื่องสาว ๆ ภายในกิลด์

“รีบมาดูวีดีโอนี้เร็วเข้า! นี่ต่างหากที่พวกเราควรจะเรียกว่านางฟ้าตัวจริง” ผู้เล่นคนหนึ่งเริ่มแชร์วีดีโอให้กับผู้เล่นที่อยู่โดยรอบ

ภาพภายในวีดีโอคือเซี่ยหยู่เว่ยกำลังร่ายรำพร้อมกับแววตาอันเย่อหยิ่งดุจดังราชินีจนทำให้ทุกคนเผลอตกหลุมรักเธอขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

หากพูดถึงความเย่อหยิ่งมันก็ไม่มีใครให้ความรู้สึกเย่อหยิ่งเทียบเท่ากับเซี่ยหยู่เว่ยได้ หากจะพูดถึงรูปร่างมันก็ไม่มีใครมีรูปร่างที่ยั่วยวนเทียบกับเซี่ยหยู่เว่ยได้เช่นกัน หากจะพูดถึงใบหน้าก็ต้องบอกว่าหญิงสาวคนนี้สมควรจะถูกขนานนามว่าสาวงามล่มเมือง

“ไม่ไหวแล้ว ฉันไปลาออกจากกิลด์แล้วไปสมัครเข้าบลัดบราเธอร์ดีกว่า” ผู้เล่นคนหนึ่งรีบกดปุ่มออกจากกิลด์ในทันที ก่อนที่เขาจะวิ่งไปยังสำนักงานใหญ่ของบลัดบราเธอร์

“ชาตินี้ฉันจะยอมตายเพื่อราชินีกุหลาบ” ผู้เล่นอีกคนก็กดออกจากกิลด์ด้วยเช่นกัน

หัวหน้ากิลด์ที่อยู่ใกล้ ๆ มองไปยังผู้เล่นด้านข้างอย่างสับสน ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโอดครวญว่า

“พี่ชาย คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! คุณคือผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ภายในกิลด์ของเราและฉันก็จ่ายเงินเดือนให้กับคุณด้วย”

“ขอโทษนะ แต่ฉันขอทิ้งทุกอย่างเพื่อความรัก เดี๋ยวฉันจะจ่ายเงินค่าชดเชยให้ครบทุกบาททุกสตางค์หลังจากนี้ฉันก็ขอลาก่อน”

คลิปของเซี่ยหยู่เว่ยคล้ายกับพายุใหญ่ลูกหนึ่งที่พัดผ่านหัวใจของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก และทำให้พวกเขากดออกจากกิลด์พร้อม ๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย ซึ่งในความเป็นจริงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เซี่ยหยู่เว่ยได้แสดงความงดงามของตัวเองออกมา

—

จุดรับสมัครสมาชิกบลัดบราเธอร์

เจ้าหน้าที่ประจำกิลด์ที่จับฉลากให้ต้องเข้าเวรกำลังนั่งดูถ่ายทอดสดงานเลี้ยงของกิลด์ในระหว่างที่มันยังไม่มีใครเข้ามาใช้บริการ

“พรุ่งนี้ฉันจะขอย้ายไปอยู่ทีมของเซี่ยหยู่เว่ย” ฟางเทียนกล่าว

“ฉันไปด้วย” เหิงหยูกล่าว

“พวกเราก็จะไปด้วยเหมือนกัน”

เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนของบลัดบราเธอร์ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมา พวกเขาก็เงยหน้าด้วยความตกใจ และทันใดนั้นทั้งคู่ก็ได้พบกับผู้เล่นเป็นจำนวนมากที่กำลังจ้องมองมาทางพวกเขาตาเขม็ง

“ในเมืองฆ่าคนไม่ได้นะ พวกนายตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?” ฟางเทียนถาม

“พวกเราขอสมัครเข้ากิลด์ด้วยครับ” เสียงที่เคยตะโกนอย่างดุดันในตอนแรกกลายเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความออดอ้อนในทันที ซึ่งทุกคนต่างก็พยายามแสดงท่าทีออกมาอย่างประจบประแจงจนทำให้เจ้าหน้าที่รับสมัครสมาชิกกิลด์ทั้งสองคนรู้สึกอึดอัด

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?” เหิงหยูรีบลุกขึ้นมาดูก่อนที่จะได้พบว่าในตอนนี้มีผู้เล่นนับพันกำลังล้อมรอบพวกเขาอยู่

“พวกคุณมาจากกิลด์ที่ยุบไปแล้วหรือเป็นกลุ่มผู้เล่นอิสระมาก่อน?” เหิงหยูถาม

“พวกเราลาออกจากกิลด์ของตัวเองเพื่อมาสมัครเข้าร่วมบลัดบราเธอร์ แต่พวกเรามีข้อแม้อยู่เพียงข้อเดียวคือพวกเราอยากจะเข้าร่วมทีมของเซี่ยหยู่เว่ยครับ”

“ใช่ พวกเราอยากร่วมทีมของเซี่ยหยู่เว่ย”

ผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันจนทำให้เหิงหยูกับฟางเทียนเต็มไปด้วยความตกใจ และเนื่องมาจากพวกเขาไม่ได้มีอำนาจในการจัดการเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงรีบติดต่อไปหาเจียงเจ๋อให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

เมื่อเจียงเจ๋อเห็นภาพที่เหิงหยูส่งมาเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบวิ่งเข้าไปหาลู่หยางแล้วพูดว่า

“ลู่หยางมีเรื่องด่วน”

“มีอะไร?” ลู่หยางถาม

เจียงเจ๋อแชร์วีดีโอไปให้ลู่หยางดูพร้อมกับพูดว่า

“ตอนนี้ที่จุดรับสมัครมีผู้เล่นหลายพันคนมาขอสมัครเข้าร่วมกับทีมของเซี่ยหยู่เว่ย”

หลังจากลู่หยางดูวีดีโอมันก็ทำให้เขารู้สึกสับสนด้วยเช่นกัน แล้วถึงแม้ว่าในชาติก่อนมันจะเคยมีการก่อตั้งกองกำลังพิทักษ์ราชินีจากเหล่าบรรดาสาวกของเซี่ยหยู่เว่ย แต่ในตอนนั้นแฟนคลับของเซี่ยหยู่เว่ยก็ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนกับภาพที่เขาได้เห็นอยู่ในตอนนี้

สิ่งที่ลู่หยางไม่รู้นั่นก็คือตอนนี้วีดีโอของเซี่ยหยู่เว่ยได้ถูกนำไปโพสต์ในเว็บไซต์ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้ยอดรับชมทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง และมันก็กลายเป็นหัวข้อพูดคุยยอดนิยมอันดับ 1 ในเว็บบอร์ดของเซคคัลเวิลด์อีกด้วย

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันไม่ใช่ความนิยมของผู้เล่นธรรมดาอีกต่อไป แต่มันเป็นความนิยมที่มักจะเกิดขึ้นกับดาราดังชั้นแนวหน้าของประเทศ

“พวกเราควรทำยังไงดี?” เจียงเจ๋อถาม

“พวกเรารีบไปหาเซี่ยหยู่เว่ยกันก่อนเถอะ” ลู่หยางกล่าว

—

หลังเวที

หลังเซี่ยหยู่เว่ยได้เห็นวีดีโอที่ลู่หยางส่งมา เธอก็แสดงสีหน้าสับสนออกมาด้วยเช่นกัน

“หัวหน้า แบบนี้ฉันจะต้องทำยังไงดี?” เซี่ยหยู่เว่ยถามเพราะเธอก็เพิ่งเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก

“หากเราไม่รับคนพวกนี้ ท้ายที่สุดพวกเขาก็จะหาทางอื่นสมัครเข้าร่วมกิลด์อยู่ดี สิ่งที่เราทำได้มีเพียงแค่รับสมัครพวกเขาเข้ามาก่อน แล้วหากใครทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ในตอนนั้นเธอค่อยรับพวกเขาเข้าร่วมทีมก็ยังไม่สาย” ลู่หยางกล่าว

“แต่พวกเขาไม่ได้มีเจตนาสมัครเข้าร่วมกิลด์ของเราตั้งแต่แรกนะคะ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวด้วยใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

“พวกเขามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอมีเจตนาบริสุทธิ์กับกิลด์ก็พอแล้ว เซี่ยหยู่เว่ยเธอน่าจะรู้ตัวว่าตัวเองสวยแค่ไหน ต่อไปมันคงจะมีคนมาตามจีบเธออีกเยอะ ในคนกลุ่มนี้มันจะมีทั้งเพื่อน, พี่น้องและลูกน้องของเธอ ฉันถามหน่อยสิว่าเธอทำได้ไหมที่จะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาเลย?” ลู่หยางถาม

“ทำไม่ได้ค่ะ” เซี่ยหยู่เว่ยส่ายหน้าอย่างสับสน

“ถ้าเธอทำได้เธอก็คงจะต้องไปบวชแล้วล่ะ” ลู่หยางกล่าว

“หัวหน้านี่มันใช่เวลามันล้อฉันหรือเปล่าเนี่ย!” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับทำแก้มป่อง

“ในเมื่อเธอทำไม่ได้ก็พยายามควบคุมสติของตัวเองไว้ การที่พวกเขามาตามจีบเธอมันก็เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนการที่พวกเขาเป็นลูกน้องของเธอมันก็เป็นเรื่องของงาน ตราบใดก็ตามที่เธอแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องของงานได้เป็นอย่างดี แค่นี้มันก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

 

---

ลาภปากลู่หยางล่ะ ได้คนเก่งมาเยอะไหมน๊อ