บทที่ 283 พักเบรค 15 วัน

-A A +A

บทที่ 283 พักเบรค 15 วัน

บทที่ 283 พักเบรค 15 วัน

“ถ้างั้นก็ตกลงกันตามนี้ ฉันจะได้เรียกพวกเขามาทำสัญญากันให้เรียบร้อย” ฉงป้ากล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจ

“ได้ครับ” ลู่หยางตอบ

ทันใดนั้นพื้นที่พิเศษก็เปลี่ยนเป็นห้องสำหรับการเจรจา โดยลู่หยาง, ฉือมู่และฉงป้าได้ยืนอยู่ตรงบริเวณทิศใต้ของโต๊ะ ทางฝั่งตรงข้ามเป็นแบล็คบลัดและบลัดไทแรนท์ ส่วนทางทิศตะวันออกได้มีร่างของโซลออฟอีเทอนิตี้และหลิวเซี่ยฮุยปรากฏขึ้นมา

“ไม่คิดเลยนะว่าพวกเราจะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้” หลิวเซี่ยฮุย ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหอเฟิ่งเซียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

แบล็คบลัดมองไปยังลู่หยางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เพราะถ้าหากอีกฝ่ายไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาขัดขวางเขาอีกครั้ง กิลด์ของเขาก็คงจะเอาชนะกิลด์ของฉือมู่ไปได้ตั้งนานแล้ว

ในทางกลับกันลู่หยางไม่ได้ให้ความสนใจกับแบล็คบลัดเลย แต่เขาได้มองไปทางโซลออฟอีเทอนิตี้อย่างไม่วางตา

“ผมได้ยินชื่อเสียงของประธานลู่หยางมาตั้งนานแล้ว ดูเหมือนว่าคุณจะเก่งกาจสมกับคำร่ำลือจริง ๆ” โซลออฟอีเทอนิตี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณสำหรับคำชม ถ้าหากมีโอกาสพวกเราคงจะได้ทำธุรกิจร่วมกัน ทางตัวผมก็รู้สึกชื่นชมเวทมนตร์สายฟ้าของคุณมาก” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หางตาของโซลออฟอีเทอนิตี้กระตุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และถึงแม้เรื่องที่เขาเป็นนักเวทสายฟ้าจะมีคนรู้อยู่ไม่น้อย แต่ลู่หยางที่อยู่ในเมืองหลักอีกเมืองก็ไม่สมควรที่จะรู้ข้อมูลพวกนี้เลย

“เลิกพูดไร้สาระแล้วมาเซ็นสัญญากันสักที ฉันจะรีบไปบุกป้อมปราการอีกที่หนึ่งแล้ว” แบล็คบลัดพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“ถ้างั้นก็มาเซ็นสัญญากันเถอะ ทุกคนจะได้แยกกันไปทำธุระของตัวเอง” ฉือมู่กล่าว

“ฉันจะทวนข้อตกลงกันอีกครั้งว่าภายใน 15 วันนี้พวกเราจะไม่โจมตีเข้าใส่กัน” ฉงป้ากล่าว

“ตกลงตามนั้น ไม่จำเป็นจะต้องพูดทวนซ้ำอีกแล้ว” บลัดไทแรนท์กล่าว

ฉือมู่กับฉงป้าต่างก็แสดงสีหน้าอึดอัดออกมาพร้อมกันและทั้งคู่ต่างก็ไม่กล้ามองไปยังสีหน้าของลู่หยางเลย

ลู่หยางก็ไม่ได้พูดอะไรให้เสียเวลาด้วยเช่นกัน หลังจากทำการเซ็นสัญญาเขาก็ทำการตัดการเชื่อมต่อออกจากพื้นที่พิเศษ

“หัวหน้าไปไหนมาคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามหลังจากเห็นลู่หยางหายตัวไป

ฉิงชางและเหล่าบรรดาแม่ทัพคนอื่น ๆ ต่างก็กำลังรอคำสั่งของลู่หยางอยู่ใกล้ ๆ ด้วยเช่นกัน

“พวกเราจะเริ่มออกเดินทางเลยไหมครับ?” ไป๋ฉือถาม

ลู่หยางส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า

“เมื่อกี้ฉันโดนขายไปเรียบร้อยแล้ว”

หลังจากนั้นลู่หยางก็ทำการเล่าเรื่องสัญญาสงบศึกให้ทุกคนฟัง ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนแสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่พอใจ

“ฉือมู่มันทำแบบนี้ได้ยังไง?! พวกเราช่วยมันรบมาตั้งหลายวัน ถ้าไม่มีพวกเรายกกำลังมาช่วยพวกมันก็คงจะเสียป้อมปราการไปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับขายพวกเราเพื่อแลกกับผลประโยชน์ของตัวเอง” ฉิงชางพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด

“แม้แต่ฉงป้าก็ยังยอมรับข้อเสนอนี้ด้วย พวกเขาจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

“ผมจะไปพูดกับพวกมันเอง” ไป๋ฉือกล่าวอย่างโกรธเคือง

ลู่หยางรีบดึงไป๋ฉือเอาไว้ก่อนที่เขาจะพูดว่า

“ฉันเคยบอกทุกคนเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่านี่แหละคือโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อไหร่ก็ตามที่สงครามจบลงทุกฝ่ายก็จะพยายามไขว่คว้าสิ่งที่จะทำให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์มากที่สุด”

ไม่ว่าจะเป็นฉิงชางหรือพวกไป๋ฉือทุกคนต่างก็อายุยังน้อย แล้วพวกเขาก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ได้พบกับความเห็นแก่ตัวในโลกธุรกิจ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นพันธมิตรหักหลังทั้ง ๆ ที่พวกเขานำกำลังมาช่วยเหลือ

“แบบนี้พวกเราก็เสียเปรียบสิคะ ทั้งบลัดเติสตี้และเดธโซลต่างก็เป็นกิลด์ที่ใหญ่มาก หลังจากหมดสัญญาพวกเขาจะต้องร่วมมือกันกำจัดเราเป็นอันดับแรกแน่ ๆ” โคลด์วิลโลว์กล่าว

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าก่อนสงครามครั้งนี้จะจบลงไง ในช่วง 8 วันที่ผ่านมานี้พวกเรามีสมาชิกกว่า 6,000 คนที่มีเลเวลถึง 30 แล้ว ทางฝั่งของถูเฟิงก็รวบรวมอุปกรณ์เลเวล 30 ของทุกอาชีพได้ครบ 1,000 เซ็ตแล้วด้วยเหมือนกัน”

“หากจะให้พูดถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริง พวกเราคือกิลด์ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในสงครามนี้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นฉือมู่ยังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้าง เขาจึงเสนออัญมณีหลายหมื่นเม็ด, หนังวัวหลายหมื่นชุดและบลูปริ้นชุดระดับแพลตตินั่มของโจรมาให้กับเราอีก 1 เซ็ต” ลู่หยางกล่าว

หลังได้ยินคำอธิบายพวกฉิงชางก็มีสีหน้าผ่อนคลายลงไปบ้าง

“โชคดีจริง ๆ ที่หัวหน้ามองการณ์ไกล ไม่อย่างนั้นคราวนี้พวกเราก็คงจะโดนฉือมู่กับฉงป้าหลอกจนเละเทะไปแล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวอย่างชื่นชม

หลังจากเดธโซลฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับคืนมา สิ่งแรกที่พวกเขาคิดจะทำคือการโจมตีบลัดบราเธอร์อย่างแน่นอน หากลู่หยางไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์นี้เอาไว้ 15 วันหลังจากหมดสัญญาพวกเขาก็คงจะถูกกวาดล้างทั้งกิลด์โดยไม่มีทางโต้กลับเลยแม้แต่นิดเดียว

“หัวหน้าแล้วพวกเราจะเอายังไงกันต่อครับ?” ไป๋เหลิงถามอย่างไม่พอใจ

“รักษาสีหน้าแบบนี้เอาไว้แล้วไปหาฉือมู่แทนฉันเพื่อขอรับของชดเชยที่เขาบอกเอาไว้ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องกลัวนายจนรีบส่งของพวกนั้นมาให้เราในทันที” ลู่หยางกล่าว

ทุกคนต่างก็ขำกับมุกตลกของลู่หยาง แต่ไป๋เหลิงยังคงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

“ผมจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้เลย เสียแรงจริง ๆ ที่ผมนับถือเขามาตั้งนาน”

หลังไป๋เหลิงเดินออกไปลู่หยางก็ส่งสัญญาณให้ไป๋ฉือ, ไป๋หูและฉิงชางตามไปด้วยเพื่อไม่ให้ไป๋เหลิงก่อเรื่องใหญ่อย่างที่ไม่ควรจะเป็น

เหตุการณ์นี้ทำให้ไป๋เหลิงรู้สึกโกรธมาก เพราะสิ่งที่ฉือมู่ทำมันก็ไม่ต่างไปจากการขอให้พี่น้องออกมาช่วยสู้รบ แต่ในท้ายที่สุดฉือมู่กลับไปแอบตกลงกับศัตรูก่อนจะทิ้งพี่น้องเอาไว้ตายคาตีนของศัตรูในขณะที่ตัวเองแอบหนีไปใช้เงินอย่างสบายใจ

ดังนั้นไป๋เหลิงจึงไม่ได้ให้โอกาสชิงเฟิงนำไอเท็มมาส่งเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเขาได้ขนทุกอย่างกลับมาเองเพื่อไปยังอาคารทางทิศตะวันตกของเมืองเซนต์กอลล์ที่ลู่หยางได้ซื้อเอาไว้

ฉือมู่ที่ยืนดูสถานการณ์จากชั้น 2 ไม่ได้รู้สึกโกรธหลังจากที่ได้เห็นท่าทีของพวกไป๋เหลิงเลย แต่เขากลับมองว่าเด็ก ๆ พวกนี้ยังคงหนุ่มแน่นและมีประสบการณ์น้อย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่รู้นั่นก็คือหลังจากถูเฟิงได้รับวัตถุดิบทั้งหมดแล้วเขาก็สั่งให้ช่างตีเหล็ก, ช่างตัดเย็บและช่างอัญมณีลงมือผลิตอุปกรณ์ขึ้นมาทั้งคืนในทันทีเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในอนาคต

เจียงเจ๋อได้ถอยกลับมาจากสนามรบเพื่อช่วยถูเฟิงดูแลสั่งการเรื่องภายในกิลด์ด้วยเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ลู่หยางได้รวบรวมบลูปริ้นชุดเซ็ตอุปกรณ์ระดับทองถึงระดับแพลตตินั่มเลเวล 30 ที่ดีที่สุดสำหรับนักรบ, พาลาดิน, นักเวทและโจรได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ตราบใดก็ตามที่พวกเขามีวัตถุดิบมากเพียงพอ ผู้เล่นสายผลิตภายในกิลด์ของพวกเขาก็จะสามารถผลิตอุปกรณ์ได้ 1 เซ็ตภายในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว

“ฉันขอให้ทุกคนจดจำเหตุการณ์ในครั้งนี้เอาไว้ว่าถ้าพวกเราขาดกำลังคอยสนับสนุน พวกเราก็จะไม่มีพลังบนโต๊ะเจรจาด้วยเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว

“ผมจะจำไปจนวันตายเลยล่ะ!” ไป๋เหลิงพูดด้วยความโกรธ

“หัวหน้าแล้วพรุ่งนี้พวกเรายังจะไปบุกป้อมปราการอยู่ไหมคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม

“กิลด์ชั้น 4 ต่างก็แยกกันไปบุกเบิกป้อมปราการของตัวเองแล้ว พวกเราควรไปแย่งรางวัลป้อมปราการแห่งแรกให้พวกมันโมโหกันดีไหมครับ?” เหมาชิวเสนอ

ลู่หยางมองดูทุกคนเสนอความคิดเห็นขึ้นมาอย่างพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า

“การบุกป้อมปราการเป็นเรื่องที่สำคัญก็จริง แต่ทุกคนลืมอะไรไปหรือเปล่า?”

“ลืมอะไรครับ/ค่ะ?” ทุกคนต่างก็มองลู่หยางอย่างสับสน

“พวกเรามีนัดจัดงานเลี้ยงกันไง อย่าลืมว่าเรายังรอให้ใครบางคนเต้นโชว์อยู่นะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้นสาว ๆ ทั้งเซี่ยหยู่เว่ย, หลานอวี่และโคลด์วิลโลว์ต่างก็หน้าแดงขึ้นมาพร้อม ๆ กัน

“เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้คุณยังจะมีอารมณ์คิดเรื่องแบบนั้นอยู่อีกเหรอ? คุณช่วยคิดถึงเรื่องที่สำคัญกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ” โคลด์วิลโลว์บ่น

“ใช่ครับ ตอนนี้พวกเราควรรีบช่วงชิงความสำเร็จ เรื่องงานเลี้ยงเลื่อนออกไปก่อนไม่ดีกว่าเหรอครับ?” เหมาชิวถาม

“สิ่งที่ทุกคนโกรธมันไม่ใช่สิ่งที่รับรู้กันโดยทั่วไปสักหน่อย ลูกกิลด์ของเรารับรู้แค่ว่าพวกเราได้รับชัยชนะและสมควรจะต้องเฉลิมฉลอง ดังนั้นเราควรจัดงานเลี้ยงฉลองพร้อมกับงานสังสรรค์พร้อม ๆ กันเพื่อกระตุ้นขวัญกำลังใจภายในกิลด์” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เฮ้อ ทำไมตอนนี้มันน่าอึดอัดจังเลยนะ” ไป๋เหลิงกล่าว

ลู่หยางตบไหล่ไป๋เหลิงเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพูดว่า

“เชื่อฉันสิว่าหลังจากนี้อีก 15 วันฉันจะทำให้ทุกคนยืนอยู่บนป้อมปราการของเดธโซลอย่างสะใจ”

“จริงเหรอครับ?” ไป๋เหลิงถามอย่างตื่นเต้นโดยที่น้ำเสียงของเขาเริ่มกลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้งหนึ่ง

 

 


น่าโมโหจริง ๆ เน๊าะ หงุดหงิด ๆ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.