บทที่ 193 จุดเริ่มต้นของสงคราม
บทที่ 193 จุดเริ่มต้นของสงคราม
พวกฉิงชางกำลังวุ่นวายเรื่องของกิลด์จนหัวหมุน เมื่อพวกเขาเห็นลู่หยางพาคนอื่นกลับมาด้วย ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างตื่นเต้น
“หัวหน้า ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว” ไป๋เหลิงกล่าว
ลู่หยางชี้นิ้วที่เจียงเจ๋อ, จ้าวชวี่, ถูเฟิง, เจียงหัวและหลี่รุ่ย ที่ตามมาทางด้านหลังก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัวทุกคนให้พวกฉิงชางได้รู้จัก
พวกเขาชื่อ ดีพซีแวสกาย, ไนน์เฮดเบิร์ด, บูชเชอร์เบลด, สโมคออฟเจียงหนานและเครซี่เบลดออฟฟอลิ่งมูน เพื่อนสนิทของฉันเอง หลังจากนี้พวกเขาจะคอยเข้ามาดูแลงานทางด้านบริหาร พวกนายช่วยส่งมอบงานให้กับพวกเขาด้วย”
“ด้วยความยินดีครับ” พวกฉิงชางต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มส่งมอบงานให้กับพวกเจียงเจ๋อ
เมื่อลู่หยางเห็นท่าทางของทุกคน มันก็ทำให้เขาอดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งในระหว่างที่ทุกคนกำลังส่งมอบงานกันอยู่นั้น เขาก็เปิดรายชื่อสมาชิกกิลด์ขึ้นมาดู
ในชาติก่อนลู่หยางตั้งกิลด์ค่อนข้างช้าทำให้ผู้เล่นฝีมือดีถูกกิลด์ขนาดใหญ่ดึงตัวไปจนหมดแล้ว แต่ในชาตินี้ชายหนุ่มได้ตั้งกิลด์หลังจากเซิร์ฟเวอร์เปิดให้บริการเพียงแค่ 20 กว่าวัน และเขายังเลือกช่วงจังหวะเวลาที่กลุ่มผู้เล่นอิสระถูกทำลาย ในรายชื่อสมาชิกจึงมีผู้เล่นชั้นยอดอยู่ไม่น้อย
เพียงแค่รายชื่อหน้าแรก ลู่หยางก็สะดุดตาเข้ากับผู้เล่นคนหนึ่งแล้ว โดยผู้เล่นคนนี้มีชื่อว่าแบล็คโน้ต ในชาติก่อนเขาก็ถือได้ว่าเป็นวอลอคชั้นยอดเลยทีเดียว
21.00 น.
เมื่อหมดเวลารับสมัคร มันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ลู่หยางตรวจสอบรายชื่อสมาชิกภายในกิลด์ทั้งหมดจนเสร็จ ซึ่งในบรรดาผู้เล่นกว่า 70,000 คนที่พวกเขารับเข้ามาภายในกิลด์ ลู่หยางก็ได้พบกับผู้เล่นคุ้นชื่อมากกว่า 200 คนเลยทีเดียว
หลังบอกให้ผู้เล่นที่กำลังรออยู่แยกย้ายกันไปก่อน ลู่หยางก็ได้นำทางทุกคนไปยังบ้านร้างทางตอนใต้ของเมือง
“การส่งมอบงานมีปัญหาอะไรไหม?” ลู่หยางเริ่มถามหลังจากทุกคนนั่งลงบนโต๊ะประชุม
“ทุกอย่างราบรื่นดี เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกเราจะเริ่มรับสมัครผู้เล่นด้วยตัวเอง” เจียงเจ๋อกล่าว
“ดีมาก ต่อไปเรื่องภายในกิลด์คงจะยุ่งขึ้นมาก ฝากพวกนายดูแลเบื้องหลังกิลด์ให้ด้วย พวกเราจะได้จัดการเบื้องหน้าอย่างสบายใจ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“หัวหน้า พวกเราจะไปจัดการพวกบลัดเติสตี้แล้วใช่ไหม?” ไป๋เหลิงพูดอย่างกระตือรือร้น
“นี่พวกนายไม่ได้สังเกตกันเลยเหรอว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกิลด์ไหนเข้ามาหาเรื่องในระหว่างที่พวกเรากำลังรับสมัครผู้เล่นเลย” ลู่หยางเผยรอยยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
“นั่นสิ เรื่องนี้มันแปลกจริง ๆ” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว เพราะในตอนที่เธอตั้งกิลด์ในตอนนั้น มันก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย
“สาเหตุที่มันเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะทุกคนกำลังรอดูความล้มเหลวของพวกเราอยู่” ลู่หยางกล่าว
“ล้มเหลว?” ทุกคนอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ใช่ ทุกคนคิดว่าพวกเราเป็นแค่เด็กน้อยไม่มีประสบการณ์และไม่มีความสามารถที่จะควบคุมกิลด์ขนาดใหญ่โตแบบนี้ได้ เพราะในกิลด์ส่วนใหญ่เมื่อมันขาดการจัดการที่ไม่ดี สุดท้ายมันก็จะมีเรื่องขัดกันเพราะผลประโยชน์จนนำไปสู่การยุบกิลด์ในที่สุด” ลู่หยางกล่าว
“ไม่มีทาง” ไป๋เหลิงกล่าว
เหมาชิวส่ายหน้าเป็นเชิงว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับพวกเขาเหมือนกัน
“พวกนายคิดดูว่าทำไมบลัดเติสตี้ถึงไม่ตอบโต้พวกเราในทันที? ทำไมแบล็คบลัดถึงไม่ฆ่าสมาชิกของเราในพื้นที่เก็บเลเวล? ทำไมฉงป้ากับฉือมู่ที่รู้ว่าการผงาดของพวกเราจะเป็นภัยคุกคามของพวกเขาถึงยอมให้พื้นที่เก็บเลเวลกับพวกเรามาง่าย ๆ? ทุกคนลองคิดดูให้ดีว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อทุกคนคิดตามสิ่งที่ลู่หยางพูด พวกเขาก็ได้พบว่าเรื่องทุกอย่างมันราบรื่นอย่างที่พวกเขาไม่เคยนึกถึงจริง ๆ
“หัวหน้า พวกเราไม่มีวันทะเลาะกันเพราะผลประโยชน์หรอก การเล่นเกมคือความสนุกของพวกเรา และพวกเราก็กำลังเพลิดเพลินกับเกมที่แปลกใหม่คล้ายกับเราได้ก้าวเท้าเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่ง” บิทเทอร์เลิฟกล่าว
“อำนาจ? ฉันเกลียดเรื่องอำนาจบ้าบออะไรนั่นที่สุดเลย” โคลด์วิลโลว์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ตอนนี้หากใครมาหาเรื่องพวกเราก่อนพวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของสมาชิกกิลด์ที่มีอยู่มากกว่า 70,000 คน ถึงแม้บลัดเติสตี้หรือเอเวอร์ลาสติงในตอนนี้จะเอาชนะพวกเราได้ แต่มันก็จะเป็นชัยชนะที่สร้างความเสียหายให้กับพวกเขามากเกินไป แต่ช่วงเวลาที่พวกเขาอ่อนแอมันก็เสี่ยงที่พวกเขาจะถูกบุกโจมตีจากกิลด์ที่เป็นศัตรู” ลู่หยางอธิบายเพิ่มเติม
“ถ้างั้นตอนนี้มันคงไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกเราสินะครับ เพราะหัวหน้ากิลด์พวกนั้นต่างก็เป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์กันหมด” ไป๋เหลิงกล่าว
“นายจะพูดแบบนั้นก็ได้ เพราะฉันก็ถือเป็นจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งด้วยเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว
เมื่อได้ฟังคำพูดของลู่หยาง มันก็ทำให้ทุกคนส่งเสียงหัวเราะขึ้นมา
“ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพัฒนาของพวกเรา แต่ช่วงเวลาอันสงบจะอยู่ไปอีกนานแค่ไหนเรื่องนั้นฉันก็บอกไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉิงชาง, เซี่ยหยูเว่ย, ไป๋ฉือและบิทเทอร์เลิฟ พวกนายทั้งสี่คนแยกกันนำผู้เล่น 200 คนเข้าไปเคลียร์ดันเจียนเพื่อสะสมอุปกรณ์ อีกไม่นานเมื่อพวกกิลด์ใหญ่รู้ว่าพวกเราไม่ได้เกิดปัญหาภายใน ตอนนั้นพวกเขาก็จะมองเราเป็นภัยคุกคามในทันที”
“หากพวกเราสามารถเอาชนะบลัดเติสตี้ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ได้ ในตอนนั้นมันจึงจะถือได้ว่าพวกเราสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราพ่ายแพ้บลัดเติสตี้ขึ้นมา ในเวลานั้นกิลด์ของพวกเราก็จะพังทลายลงไปด้วยเช่นกัน” ลู่หยางกล่าว
พวกฉิงชางไม่เคยคิดถึงเรื่องที่ไกลขนาดนั้นมาก่อน แต่หลังจากได้ฟังลู่หยางอธิบายพวกเขาก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันของกิลด์มากยิ่งขึ้น
“หัวหน้า เรื่องการหาอุปกรณ์ไม่น่าเป็นปัญหา แต่สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือเรื่องหนังสือสกิล ของพวกนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ถึงแม้เราจะมีเงินแต่มันก็ยังหาซื้อหนังสือสกิลไม่ได้ แม้กระทั่งพวกเราก็ยังหาหนังสือสกิลประจำอาชีพได้ไม่ครบเลย หากมันเกิดความขัดแย้งกับกิลด์อื่นขึ้นมา พวกเราที่มีสกิลไม่ครบก็คงจะเสียเปรียบศัตรูมาก” ฉิงชางกล่าว
ระหว่างการต่อสู้กันหากผู้เล่นฝ่ายหนึ่งใช้สกิลที่เรียนรู้ได้ตอนเลเวล 10 ขณะที่อีกฝ่ายใช้สกิลที่เรียนรู้ได้ตอนเลเวล 1 ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่ายมันก็จะแตกต่างกันมาก และหากวัดกันในกรณีที่อุปกรณ์มีเท่ากัน ฝ่ายไหนที่มีสกิลด้อยกว่าก็จะกลายเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ในทันที
“เรื่องนั้นฉันคิดวิธีแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปฉันก็จะปลีกวิเวกไปเก็บเลเวลด้วยเหมือนกัน หลังจาก 10 วันนี้ฉันจะเอาหนังสือสกิลจำนวนมากกลับมาให้ทุกคนเอง ระหว่างนั้นพวกนายก็ช่วยปั้นผู้เล่นเลเวล 18 ที่มีอุปกรณ์ระดับเงินครบครันสัก 800 คนมาให้ฉันด้วย” ลู่หยางกล่าว
หากเป็นกิลด์อื่นคำสั่งของลู่หยางคงจะถูกลูกน้องปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พวกฉิงชางกลับจ้องมองมาด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะพวกเขาถือว่าเรื่องนี้เป็นคำท้าทายที่ลู่หยางกำลังโยนมาให้ทุกคน
มีเพียงเซี่ยหยู่เว่ยและคนจากสตูดิโอหนานปิงที่แสดงท่าทีลำบากใจออกมา แต่พวกเธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร
“ฉันมีรายชื่อสมาชิกกิลด์อยู่ชุดหนึ่ง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งรายชื่อผู้เล่นชั้นยอดจากชาติก่อนไปให้กับทุกคน
“รอบแรกให้พาคนพวกนี้ไปเก็บเลเวลก่อน เลเวลและอุปกรณ์ของพวกเขาค่อนข้างจะดีกว่าคนอื่น ๆ ส่วนหลังจากนี้ฉันจะมาจัดการเรื่องอื่น ๆ กับพวกเขาต่อเอง” ลู่หยางกล่าว
ท้ายที่สุดลู่หยางก็ไม่สามารถบอกทุกคนได้ว่าเขาเคยเห็นฝีมือของผู้เล่นเหล่านี้มาก่อน เขาจึงจำเป็นจะต้องหาคำอธิบายอื่นมาให้กับพวกฉิงชาง
“ได้ครับ/ค่ะ” พวกฉิงชางก็สังเกตเห็นพวกแบล็คโน้ตตอนรับสมัครผู้เล่นด้วยเหมือนกัน และพวกเขาก็คาดหวังว่าจะได้พาคนพวกนี้ไปเก็บเลเวลก่อนใคร
หลังจากสั่งงานพวกฉิงชางจบ ลู่หยางก็หันไปพูดกับพวกเจียงเจ๋อว่า
“ต่อไปนี้งานของพวกนายคือต้องช่วยฉันหาผู้เล่นฝีมือดี หากพวกนายต้องการใช้เงินก็ให้ติดต่อผู้เล่นที่ชื่อเฮ่ยเจีย ชื่อจริงของเขาคือเสี่ยวเหลียงเป็นน้องชายที่โตมากับฉันตั้งแต่เด็ก หากมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 5 เหรียญทองพวกนายสามารถขอเงินจากเขาได้เลย เดี๋ยวฉันจะบอกเขาเอาไว้ให้เอง”
“นี่นายรวยขนาดนั้นเลยเหรอ?!” เจียงเจ๋อถามอย่างประหลาดใจ
“ถ้าเงินแค่นั้นฉันยังไม่มีแล้วฉันจะมีหน้ามาตั้งกิลด์ได้ยังไง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตอนแรกทุกคนก็ยังคงกังวลว่ากิลด์จะขาดเงินทุนจนทำให้การดำเนินงานพบเจอกับอุปสรรค แต่หลังจากได้ฟังคำพูดของลู่หยาง มันก็ทำให้พวกเขาเริ่มผ่อนคลายลงได้บ้าง
“เอาล่ะตั้งแต่พรุ่งนี้ทุกคนก็พยายามเข้านะ พวกเรามาเตรียมเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้พวกคนที่ดูถูกพวกเรากันเถอะ!” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับตบมือ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 268
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น