ใช้ยังไงไม่ให้หนี้ท่วม? รู้จัก 5 เทคนิคใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด
ใช้ยังไงไม่ให้หนี้ท่วม? รู้จัก 5 เทคนิคใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด
บัตรเครดิต เป็นความสะดวกสบายทางการเงินที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยหากเป็นเจ้าของที่มีวินัยทางการเงิน บัตรนี้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกและเอื้อสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้กับผู้ใช้ สำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีวินัยและมักใช้จ่ายแบบมือเติบไม่คิดถึงอนาคตแล้วละก็ บัตรนี้ก็เปรียบได้กับประตูที่จะพาผู้ใช้ประเภทนี้ไปสู่ “กับดักหนี้” ใช้หนี้แบบไม่รู้จบเท่านั้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ แนะนำ 5 เทคนิคการใช้บัตรอย่างชาญฉลาด ไม่ก่อหนี้ แถมยังได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย
1. ทำความเข้าใจบัตรเครดิตแต่ละประเภท
การกดเงินสดจากบัตรเครดิต (เพิ่มเติม: https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/244) มีด้วยกันหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน เช่น อาหาร, ท่องเที่ยว, ช้อปปิ้ง, เดินทาง ฯลฯ ก่อนที่เราจะมีบัตรเป็นของตัวเองก็ควรศึกษาและทำความเข้าใจบัตรแต่ละประเภทให้ท่องแท้เพื่อเลือกบัตรที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด เช่น บัตรสำหรับผู้ที่มีรายได้ 15,000 – 20,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่มีอยู่ 3 ประเภท
- บัตรสำหรับคนชอบช้อปปิ้ง: จุดเด่นอยู่ที่แต้มสะสมเพื่อแลกรับส่วนลด/ของรางวัลต่าง ๆ จากร้านค้าและร้านอาหารต่าง ๆ ที่ร่วมรายการ
- บัตรสำหรับคนชอบเดินทาง: มีคะแนนสะสมไมล์เดินทางเพื่อรับส่วนลดหรือของรางวัลต่าง ๆ
- บัตรเครดิตเติมน้ำมัน : ผู้ใช้จะได้รับเงิน เมื่อเติมน้ำมันกับปั๊มที่ร่วมรายการ
เมื่อเลือกสมัครบัตรที่เหมาะสมกับไลฟ์ไสตล์ของตัวเองแล้ว เราก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรโดยได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดตรงกับความต้องการของเราได้นั่นเอง
2. อย่าชำระหนี้บัตรเครดิตล่าช้า
เมื่อเลือกสมัครใช้บัตรเครดิตที่ตอบโจทย์กับเรามากที่สุดได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอก็คือ เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ตามรอบบิลนั้น ๆ หากเราจ่ายล่าช้าไม่ว่าจะเพราะลืมหรือหมุนเงินไม่ทันก็ตาม สิ่งที่ตามมาคือดอกเบี้ย ทั้งยังเสี่ยงต่อการเสียประวัติสินเชื่อ ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ ในอนาคตมีปัญหาได้อีกด้วย
3. กดเงินสดจากบัตรเครดิตเมื่อจำเป็น
ในกรณีการใช้บัตรเครดิตที่ให้เรากดเงินสดจากบัตรเครดิตได้เต็ม 100% ของวงเงินในบัตรหรือเท่ากับวงเงินที่เหลืออยู่ ต้องเข้าใจก่อนว่าการกดเงินมีค่าธรรม 3% พร้อม VAT 7% พร้อมดอกเบี้ยรายวันในอัตราสูงสุดถึง 20% ต่อปีอีกด้วย ถ้าไม่อยากมีหนี้ระยะยาวแนะนำให้กดเงินสดเมื่อจำเป็น
4. อย่าจ่าย “ขั้นต่ำ”
บางคนใช้วิธีรูดยอดมาก ๆ ภายในบิลเดียวแล้วเมื่อถึงกำหนดชำหนี้ก็ใช้วิธีจ่าย “ขั้นต่ำ” ซึ่งเป็นการชำระเพียง 10% ของยอดที่รูดมาทั้งหมดในรอบบิลนั้น เช่น รูดไป 20,000 บาท ก็ชำระแค่ 2,000 บาท ซึ่งจะไม่ถือว่าเป็นการชำระหนี้ล่าช้า แต่ยอดหนี้ที่เหลือจะถูกยกไปทบในงวดต่อ ๆ ไปพร้อมกับ “ดอกเบี้ย” ที่งอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งยอดค้างชำระมากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็ยิ่งเยอะตาม ทางที่ดีคือรูดเท่าไหร่ก็ควรจ่ายเต็มจำนวนเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยที่จะตามมาภายหลังจะดีกว่า
5. ใช้สิทธิพิเศษ
ข้อดีของการใช้จ่ายผ่านบัตรส่วนหนึ่งก็คือ สิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ “เงินสด” ให้ไม่ได้นั่นเอง ซึ่งบัตรแต่ละชนิดแต่ละธนาคารย่อมมีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว สิทธิประโยชน์มักจะมีด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่
- ผ่อน 0%: ถือเป็นโปรโมชั่นยอดฮิตของสายช้อปปิ้งที่ต้องการซื้อสินค้ามูลค่าสูง แต่ไม่อาจจ่ายเงินก้อนโตในครั้งเดียวได้ ก็สามารถทยอยจ่ายเป็นงวด ๆ โดยไม่เสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว
- สะสมแต้ม: ทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตร เราจะได้รับแต้มสะสมตามเงื่อนไขของบัตรแต่ละชนิด ซึ่งแต้มเหล่านี้จะเอื้อประโยชน์ให้เราได้อย่างมาก (หากใช้จ่ายอย่างมีวินัย) เช่น แลกรับของรางวัล, ส่วนลดร้านอาหารหรู, ส่วนลดโรงแรมชั้นนำ ฯลฯ
- เครดิตเงินคืน: หรือที่เรียกว่า “Cash Back” เป็นการคืนเงินเข้าสู่บัญชีบัตรของผู้ใช้ทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตร เหมือนกับการได้รับส่วนลดในการใช้จ่าย เช่น บัตรเครดิตเติมน้ำมัน ที่มักมีเครดิตเงินคืนตั้งแต่ 1 – 10 % เมื่อเติมน้ำมันกับปั๊มที่ร่วมรายการ เป็นต้น
ที่มาข้อมูล
- https://www.estopolis.com/article/knowledge/money-101/วิธีใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์-ใช้ยังไงให้ได้กำไร-คุ้มค่า
- https://www.moneyguru.co.th/credit-card/articles/ข้อควรระวังในการใช้บัตรเครดิต/
ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง
เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น
ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว
หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน
Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.
แสดงความคิดเห็น