บทที่ 88: ทุ่มสุดตัว!
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้หลินหยวนใจหายวาบ เดิมทีเขาคิดว่าถ้าใช้ไททันมหาวิบัติ 2 ตัวนี้มาช่วยซื้อเวลา อย่างน้อยพวกมันน่าจะรั้งไททันจอมมารทมิฬได้นานกว่านี้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินศัตรูต่ำเกินไป
ถึงแม้ว่าไททันปีศาจนรกกับไททันภูตพยัคฆ์จะร่วมมือกันสู้ แต่พวกมันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไททันมหันตภัยอยู่ดี ในเวลาไม่ถึงครึ่งนาทีทั้ง 2 ก็ถูกเก็บไปอย่างง่ายดาย
ในทางกลับกัน การสังเวยอันเดดยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่มันจะเสร็จสิ้น
ดูเหมือนว่า… เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องลงมือทำภารกิจนี้ด้วยตัวเองแล้ว
หลินหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ กระชับดาบปราบมังกรแน่นพร้อมกับมองตรงไปข้างหน้า
ต่อให้เขาต้องแลกด้วยชีวิต เขาก็จะต้องรอจนกว่าการสังเวยอันเดดจะเสร็จสิ้นให้ได้!
ขณะนี้มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะเอาชนะศัตรูได้ ป้อมปราการแห่งนี้จึงจะพ้นภัย
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจทนดูป้อมปราการสงครามแห่งนี้ถูกทำลายลงได้!
“เอาล่ะ” ดวงตาของหลินหยวนมีประกายสายฟ้า “เรามาสู้กัน!”
ในเวลาเดียวกัน ไททันจอมมารทมิฬค่อย ๆ เคลื่อนเข้าหาเด็กหนุ่มพร้อมกับแผ่ไอสังหารออกมา
ซึ่งแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาเปรียบดั่งมัจจุราชมาเยือน
แต่ทันทีที่หลินหยวนเตรียมจะโจมตี จังหวะนั้นก็มีร่างหลายร่างพุ่งเข้ามาจากด้านหลังไททันจอมมารทมิฬ
ภาพที่ปรากฏทำให้เด็กหนุ่มตกใจไม่น้อย และสายตาของเขาก็เหลือบไปมองภาพนั้นโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพบว่า… คนเหล่านี้คือพวกโจวอวี้หลง!
คนแรกที่เปิดการโจมตีก็คือเว่ยโยวผู้ที่ถือมีดสั้นสีดำ
ขณะนี้หน้ากากของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำครึ่งหนึ่งและสีขาวครึ่งหนึ่ง
“ผสานวิญญาณเป็นหนึ่ง ทำลาย!!” แม้ว่าร่างวิญญาณขาวดำจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างนั้น การรวมร่างวิญญาณทั้ง 2 เข้าด้วยกันจะปลดปล่อยสกิลใหม่ออกมานั่นก็คือ ‘สะบั้นวิญญาณ’
การโจมตีนี้เรียกว่าสะบั้นวิญญาณ เพราะมันจะทำลายวิญญาณของคู่ต่อสู้โดยตรง
สำหรับเว่ยโยวที่มีพลังพิเศษแรงก์ SS การประสานวิญญาณเข้าด้วยกันมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายถึงขนาดนั้น
ด้วยพลังในปัจจุบัน เขาสามารถผสานวิญญาณขาวดำได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น มันมีราคาที่ต้องจ่าย เพราะการใช้สกิลนี้มันจะสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณของเขาเองอย่างมหาศาลเช่นกัน
ต่อให้เขาจะเอาชีวิตรอดไปจากการต่อสู้ครั้งนี้ได้ แต่ความเสียหายที่เขาได้รับนั้นจะทำให้เขาต้องนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงนานกว่า 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ ณ ตอนนี้ นี่เป็นวิธีเดียวที่เขาจะสร้างความเสียหายให้กับไททันมหันตภัยตัวนี้ได้
และเนื่องจากเว่ยโยวลอบโจมตีจากด้านหลัง ประกายเย็นเยียบจากปลายมีดสั้นจึงได้ฟันทะลุร่างของไททันจอมมารทมิฬก่อนที่เขาจะทันได้รู้ตัว
ฉัวะ!
การโจมตีนี้ไม่ทิ้งบาดแผลไว้บนร่างกายของฝ่ายตรงข้าม ทว่ามันกลับสร้างบาดแผลให้กับวิญญาณของเขาตรง ๆ
“อ๊ากกกก ไอ้มนุษย์เวรรร!” ทันใดนั้นก็มีเสียงโหยหวนดังออกมาจากปากจอมมารทมิฬ
ขณะนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดจากข้างในโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นเขาจึงใช้ฝ่ามือตบเว่ยโยวเต็มแรง
ปัง!
ร่างของชายหนุ่มถูกตบกระแทกเข้ากับอาคารจนเกิดหลุมขนาดใหญ่
ด้วยแรงอัดมหาศาลขนาดนี้ไม่รู้ว่าทั่วทั้งร่างกระดูกหักไปแล้วกี่ชิ้น ถึงเขาจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงกำมีดสั้นเอาไว้แน่น
สำหรับตัวเว่ยโยว การสร้างความเสียหายในระดับนี้ให้กับไททันมหันตภัยนั้นนับว่าคุ้มค่า แม้ว่ามันจะแลกด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสแค่ไหนก็ตาม
ขณะเดียวกัน โจวอวี้หลงกับคนอื่น ๆ ไม่มีเวลามาสนใจเพื่อนร่วมทีมที่ถูกโจมตี
ตอนนี้พวกเขามีภารกิจที่สำคัญมาก นั่นก็คือการยื้อเวลาศัตรูตัวยักษ์ใหญ่เพื่อให้หลินหยวนทำตามแผนการได้สำเร็จ
หลังจากที่ไททันจอมมารทมิฬถูกโจมตีถึงวิญญาณ เขาก็ได้รับบาดเจ็บจากภายใน ดังนั้นทุกคนจึงได้ฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าโจมตีศัตรู
หลินชิงรีบใช้พลังพิเศษแบบเต็มกำลัง ทันใดนั้นเถาวัลย์เส้นหนาหลายเส้นก็งอกขึ้นมาจากพื้นพันรอบขาของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้
ส่วนเย่โจวก็ยื่นมือออกไปเรียกโล่สีเขียวมรกต 2 อันขึ้นมาขวางเหนือร่างของโจวอวี้หลงกับหลี่ต้าหมาน จากนั้นเขาก็เอ่ยเตือนว่า “ระวังตัวด้วย โล่พลังงาน 2 อันนี้ต้านทานการโจมตีของศัตรูได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
โจวอวี้หลงพยักหน้ารับทันที “ฉันเข้าใจแล้ว”
ทางหลี่ต้าหมานเองก็กำหมัดแน่นพร้อมตอบกลับเสียงทุ้ม “แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว!”
ต่อมา ทั้งคู่พุ่งทะยานขึ้นไปบนอากาศทันที โดยที่โจวอวี้หลงถือดาบยาวไว้ในมือไปปรากฏต่อหน้าไททันจอมมารทมิฬ
ขณะนี้เขาสวมชุดเกราะสีดำที่ล้อมรอบด้วยโล่พลังงานสีเขียวมรกต ซึ่งเขาที่มั่นใจในพลังป้องกันของตัวเองจึงกล้ามาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้โดยตรง
“ตายซะ!” หลังจากที่จอมมารทมิฬถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บถึงวิญญาณ เขาก็แทบจะเสียสติ
เขาปล่อยหมัดที่ทรงพลังออกไปพร้อมกับไอปีศาจที่พุ่งออกมาเป็นระลอกคลื่น
ซึ่งคนที่จอมมารทมิฬเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้เป็นโจวอวี้หลง ไม่ใช่หลินหยวนผู้ครอบครองฉงถงระดับสูงที่สามารถเดาทิศทางการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ เมื่อต้องเผชิญกับหมัดที่ว่องไวเช่นนี้ เขาจึงไม่สามารถหลบได้ทัน
ชายสวมชุดเกราะได้แต่กัดฟันกำดาบในมือเอาไว้แน่น ในเมื่อเขาหลบไม่พ้น เขาจึงต้องหาทางรับมือกับมันเต็ม ๆ
“ลมหายใจมังกร!” โจวอวี้หลงพูดเสียงลอดไรฟัน
จากนั้นแสงดาบสีแดงเข้มก็พุ่งออกมาจากดาบในมือของเขาดุจดั่งลมหายใจของมังกรยักษ์
แต่แสงดาบนี้ก็ยังดูเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับหมัดของไททันมหันตภัย
ปัง!!
ในตอนที่ปะทะกับหมัดที่พุ่งเข้ามา แสงดาบสีแดงก็แตกกระจาย จากนั้นแม้แต่โล่สีเขียวมรกตที่ล้อมรอบตัวโจวอวี้หลงก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ
ดูเหมือนว่าเย่โจวจะประเมินพลังของตัวเองเอาไว้ต่ำเกินไป เพราะโล่พลังงานสีเขียวมรกตที่เขาห่อหุ้มร่างของโจวอวี้หลงนั้นไม่สามารถต้านทานการโจมตีเต็มกำลังของไททันจอมมารทมิฬได้เลย
โชคดีที่เขายังมีเกราะสีดำที่คลุมร่างกายช่วยป้องกันอีก 1 ชั้น
เพล้ง!! เพล้ง!! ปัง!!!
นับว่าโชคดีที่แสงดาบกับโล่ของเย่โจวช่วยลดทอนพลังหมัดของฝ่ายตรงข้ามลงบางส่วน
เมื่อหมัดของศัตรูเข้ามาใกล้ รอยร้าวนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นบนชุดเกราะสีดำของโจวอวี้หลง
จากนั้นมันก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กระจัดกระจายไปทั่ว และเจ้าของร่างก็กระเด็นถอยหลังไปกระแทกตึกสูงเสียดฟ้า ก่อนจะตกลงบนพื้นเต็มแรง
แม้วิญญาณของจอมมารทมิฬจะได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้มีพลังพิเศษแรงก์ SS เหล่านี้ ตัวเขาก็ยังคงเหนือกว่าเช่นเคย
ขณะที่โจวอวี้หลงถูกโจมตีจนหมอบอยู่บนพื้น หลี่ต้าหมานก็ได้อ้อมมาอยู่ด้านหลังศัตรูเรียบร้อยแล้ว
ในไม่ช้าเขาก็ปลดปล่อยพลังปราณของตัวเองออกมาอย่างเงียบเชียบ
พลังปราณสีแดงเข้มกำลังแผ่ออกมาจากร่างกายเหมือนไอหมอกสีแดง
การกระทำนั้นไม่ใช่การปลดปล่อยพลังปราณ แต่เป็นการผลาญพลังปราณของตัวเองต่างหาก เพราะนี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของเขาแล้ว
โลหิตเผาไหม้!
หากเขาผลาญพลังปราณของตัวเอง พลังระเบิดของเขาก็จะมีอานุภาพร้ายแรงมากกว่าเดิมถึง 7 เท่า!
แต่วิธีการนี้ก็ยังมีผลที่ตามมามากมายเช่นกัน
เพราะทุกครั้งที่เขาผลาญพลังปราณ อายุขัยของเขาก็จะสั้นลง 5-10 ปี
ดังนั้นก่อนหน้านี้ถึงนี่จะเป็นอาวุธขั้นสุดยอดของเขา แต่หลี่ต้าหมานจะใช้มันเพียงครั้งเดียวยามที่อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายเท่านั้น
และนี่เป็นครั้งที่ 2 ของเขา
หลี่ต้าหมานสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะปล่อยหมอกสีแดงกระจายปกคลุมรอบตัวเขา
วินาทีต่อมา กล้ามเนื้อแขนขวาก็พองใหญ่ขึ้น
“หมัดก่อนหน้านี้เป็นการแก้แค้นให้เหล่าถัง ส่วนหมัดนี้เพื่อมนุษย์ทุกคนที่ตายด้วยน้ำมือของแก!!” หลี่ต้าหมานเค้นพละกำลังทั่วร่างให้ไปรวมกันที่แขนขวาของตัวเอง จากนั้นเขาก็คำรามเสียงกร้าว ก่อนจะปล่อยหมัดที่หนักหน่วงที่สุดเข้าใส่หลังของไททันจอมมารทมิฬ
หมัดนี้ได้รวบรวมพลังความโกรธทั้งหมดของเขา ซึ่งมันปลดปล่อยพลังที่มากกว่าปกติถึง 7 เท่า
ตูม!!
เนื่องจากมีพลังอัดแน่นมหาศาลยามที่มันพุ่งแหวกอากาศจึงเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น
ไม่นานมังกรที่ก่อตัวจากพลังปราณก็พุ่งเข้าหาจอมมารทมิฬจากด้านหลังก่อให้เกิดรูเลือดขนาดมหึมา
ทว่าพอหลี่ต้าหมานปล่อยหมัดนี้ออกไป กล้ามเนื้อที่เคยพองโตของเขาก็เหี่ยวเฉาลง
ดูเหมือนว่าการผลาญพลังงานก่อนหน้านี้ได้กัดกินพลังชีวิตของเขาไปมากจนเขาถูกพลังสะท้อนกลับทันที
จากนั้นหลี่ต้าหมานก็กระอักเลือดออกมาจากปาก แม้แต่พลังที่จะลอยตัวอยู่กลางอากาศก็ไม่เหลือ หลังจากโซเซอยู่สักพักเขาก็ร่วงลงสู่พื้น
ผู้ชายคนนี้ได้พิสูจน์ความกล้าหาญของตัวเองให้ไททันจอมมารทมิฬได้เห็นแล้ว
“สมแล้วที่เป็นชาวหัวเซี่ย…” หลินชิงมองหลี่ต้าหมานที่กำลังร่วงหล่นจากฟากฟ้าด้วยสายตาชื่นชม ขณะเดียวกันเธอก็รีบใช้พลังพิเศษของตัวเองเรียกเถาวัลย์หลายต้นขึ้นมารับร่างของอีกฝ่ายเอาไว้
“ไอ้พวกมนุษย์สารเลว!!” หลังจากกัดฟันทนพิษบาดแผลไททันจอมมารทมิฬก็เปิดการโจมตีที่รุนแรงอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน เลือดสีแดงเข้มก็ไหลรินออกมาจากบาดแผลที่หลังอย่างต่อเนื่อง และความเจ็บปวดมหาศาลนั้นก็ทำให้เขาแทบคลั่ง
ก่อนหน้านี้เขาถูกโจมตีวิญญาณจนบาดเจ็บจากภายใน แต่ครั้งนี้เป็นบาดแผลบนร่างกาย
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่ามนุษย์ที่เหมือนมดปลวกพวกนี้จะทำร้ายเขาได้จริง ๆ
“ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินพวกแกต่ำไปสินะ…” จอมมารทมิฬจ้องมองเหล่ามนุษย์ด้วยสายตาวาวโรจน์ ในขณะที่เขาพูดเสียงลอดไรฟัน “แต่อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยพวกแกไปง่าย ๆ จากนี้ไปฉันจะบดขยี้พวกแกทีละตัว หักกระดูกทุกชิ้นในร่างกายของพวกแก ทำให้พวกแกตายโดยที่ไม่เหลือแม้แต่ซาก!!”
*******************************************
SkySaffron: ทุกคนทุ่มสุดตัวจริง ๆ ต่อให้จะมีผลร้ายแรงกับตัวเองก็ตาม ได้ใจไปเต็ม ๆ!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 100
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น